ใครเป็นไม้เบื่อไม้เมากับเจ้าพุงตัวร้ายบ้าง? เชื่อว่า 7 ใน 10 คนต้องพร้อมใจกันยกมือขึ้นแน่นอนค่ะ เพราะพุง หรือเจ้าหน้าท้องป่อง ๆ ยื่น ๆ หรือพุงโต ๆ ที่ชอบเสนอตัวมาอยู่กับเราเกือบทุกช่วงชีวิตโดยที่เราไม่เต็มใจนั้น ช่างขับไล่ยากเย็นเสียเหลือเกิน หลายคนคงเคยลองลดพุงกันมาหลากหลายวิธีแล้ว ทั้งออกกำลังกาย ควบคุมอาหาร แต่ก็ไม่ค่อยคืบหน้าดังใจหวัง เผลอ ๆ วันก่อนนู้นเพิ่งยุบ สัปดาห์ถัดมาก็พบว่าเหมือนมันจะกลับมาอีกแล้ว ไม่ว่าอย่างไร หากการลดพุงไม่เป็นผล ย่อมต้องมีเหตุผลอยู่แน่นอนค่ะ ส่วนสาเหตุอะไรที่เผลอมองข้าม หรือกำลังขัดขวางหนท้องสู่หน้าท้องแบนราบอยู่กันแน่ ลองตามไปสอดส่องทั้ง 10 สาเหตุที่เรานำมาบอกกันได้เลยค่ะ
10 สาเหตุที่ทำให้ลดพุงไม่ลง
1. กรรมพันธุ์
ภายในครอบครัวเดียวกันที่ใกล้ชิดกัน สามารถส่งต่อกรรมพันธุ์อันเป็นสาเหตุของโรคอ้วนได้ บางคนอาจมีแนวโน้มทางพันธุกรรมที่มีน้ำหนักเกินง่าย จึงทำให้มีหน้าท้องได้ง่าย และอาจส่งผลต่อระบบการเผาผลาญ หรือการสะสมไขมันด้วย
2. ฮอร์โมนในร่างกายไม่สมดุล
หากระดับฮอร์โมนในร่างกายขาดความสมดุล ตัวอย่างเช่น มีฮอร์โมนเครียดมากเกินไปหรือถูกผลิตอย่างต่อเนื่อง จะส่งผลให้ระบบเผาผลาญของร่างกายรวนจนทำงานได้ไม่ดี เกิดการสะสมของไขมันบริเวณหน้าท้องเพิ่มขึ้น หรือที่หลาย ๆ คนได้ยินกันบ่อย ๆ ว่าพุงเครียดนั่นเองค่ะ
3. ออกกำลังกายผิดวิธี
การออกกำลังกายที่ช่วยลดไขมันสะสม และช่วยเสริมความแข็งแรงของร่างกายและกล้ามเนื้อนั้น จำเป็นต้องใช้วิธีหลายรูปแบบผสมผสานและสลับกันไปค่ะ บางคนอาจเข้าใจผิดไปเน้นออกเฉพาะคาร์ดิโอ ซึ่งแม้ปริมาณไขมันสะสมจะลดลง แต่ในระยะยาวไม่ได้ช่วยพัฒนาระบบการเผาผลาญ บางคนก็เน้นออกกำลังกายหักโหมเกินพอดี จนมวลกล้ามเนื้อลดฮวบ ทำให้ระบบเผาผลาญทำงานได้ไม่ดี แถมสร้างความตึงเครียดแก่ร่างกาย ก่อเกิดเป็นพุงเครียดจากฮอร์โมนอีก ฉะนั้นจึงควรออกกำลังกายระดับปานกลางหรือคาร์ดิโอ ให้ได้วันละ 30 – 60 นาที ตกสัปดาห์ละไม่เกิน 250 นาที และสลับไปออกกำลังกายแบบความเข้มข้นสูง (High Intensity) ที่ 1 – 2 ครั้งต่อสัปดาห์ และควรออกกำลังกายแบบบอดี้เวทด้วยเพื่อเพิ่มมวลกล้ามเนื้อไปพร้อม ๆ กัน เนื่องจากมวลกล้ามเนื้อจะช่วยให้ร่างกายดึงพลังงานส่วนเกินไปใช้ได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นค่ะ
4. ไม่จริงจังกับการออกกำลังกาย
หลายคนอาจไม่มุ่งมั่นตั้งใจกับการออกกำลังกายมากพอ จึงทำให้ผลลัพธ์ออกมาไม่ค่อยชัดเจน หรือไม่ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ เช่น ออกกำลังกายวันหนึ่ง แล้วเว้นทีละหลายวันค่อยกลับมาออกใหม่ หรือออกได้ไม่ทันไร พอรู้สึกเหนื่อยหน่อยก็หยุดพักบ่อย ๆ หรือไม่ยอมออกต่อ รวมถึงคนที่ไม่มุ่งมั่นมากพอจะออกกำลังกายแบบเข้มข้น เน้นแค่ออกเบา ๆ นิดหน่อยพอหอมปากหอมคอ ซึ่งรูปแบบที่ว่ามา ย่อมทำให้ไม่สามารถลดน้ำหนักหรือลดหน้าท้องได้ค่ะ ฉะนั้นจึงควรฝึกวินัยตัวเองให้สามารถออกกำลังกายได้อย่างต่อเนื่อง สม่ำเสมอ และออกกำลังกายทั้งหนักเบาสลับกัน รับรองหน้าท้องแบนราบรอคุณอยู่แน่นอน
5. ชอบกินอาหารสำเร็จรูป
อาหารสำเร็จรูปทั้งสะดวก อร่อย และหาซื้อง่าย ทว่าก็มาพร้อมกับปริมาณโซเดียม น้ำตาล แป้ง และสารพัดสารปรุงแต่งมหาศาล ซึ่งล้วนส่งผลเสียต่อร่างกายเราทั้งสิ้น โดยอาหารสำเร็จรูป อาหารฟาสต์ฟู้ด รวมถึงขนมและน้ำหวานทั้งหลายมักจะเป็นอาหารที่ย่อยเร็ว จึงเปลี่ยนไปเป็นไขมันสะสมพอกพูนตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้เร็ว โดยเฉพาะพุง ถ้าเป้าหมายคือการลดพุง การปรับพฤติกรรมการกินและตามใจปาก เป็นเรื่องแรก ๆ ที่ต้องทำค่ะ
6. มีหุ่นทรงแอปเปิล
ลองส่องกระจกแล้วสังเกตดู ว่าคุณเป็นคนที่มีช่วงเอวหนากว่าสะโพกและก้นหรือไม่ ถ้าใช่แสดงว่าคุณเป็นคนที่มีสัดส่วนทรงแอปเปิล ซึ่งหุ่นแบบนี้จะมีหน้าท้องโดยอัตโนมัติค่ะ และยังมักลดหน้าท้องได้ยากกว่ารูปร่างแบบอื่น ๆ อีกด้วย
7. ความเครียด
ในปัจจุบันนี้ความเครียดนับเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องพบเจอ และบางครั้งก็ยากจะจัดการ หรือแทบจัดการไม่ได้เลย ซึ่งเมื่อสภาวะจิตไม่สมดุล ร่างกายก็ย่อมไม่สมดุลตาม โดยเจ้าความเครียดจะทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) หรือที่เรียกกันว่า “ฮอร์โมนเครียด” ซึ่งส่งผลให้ร่างกายรู้สึกหิวหรืออยากของหวานมากกว่าปกติ จนก่อให้เกิดการกินมากเกินจำเป็น ทั้งยังทำให้ระบบเผาผลาญทำงานได้ไม่ดีเท่าที่ควรจนเกิดการสะสมไขมันง่ายขึ้น
8. พักผ่อนน้อย
มีผลการวิจัยจากสถาบันสุขภาพของอเมริกาพบว่า กลุ่มอาสาสมัครที่เข้าร่วมการทดลอง ซึ่งนอนน้อยกว่า 6 ชั่วโมง มีแนวโน้มที่น้ำหนักตัวจะเพิ่มขึ้นกว่าคนทั่วไปถึง 30% ขณะในกลุ่มอาสาสมัครที่นอนวันละ 7 – 8 ชั่วโมง กลับมีแนวโน้มน้ำหนักตัวลดลง เป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่าการนอนน้อยส่งผลต่อระบบเผาผลาญ การสะสมไขมัน และย่อมเป็นอีกสาเหตุที่พุงไม่ยอมลดลงเสียทีค่ะ
9. ภาวะของโรคบางอย่าง
ในผู้หญิงที่เป็นโรคภาวะถุงน้ำรังไข่หลายใบ (Polycystic Ovary Syndrome: PCOS) อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนเทสโทสเทอโรนมากกว่าปกติ ซึ่งส่งผลให้น้ำหนักขึ้นง่าย ประจำเดือนมาขาด ๆ หาย ๆ ขนดก มีบุตรยาก ผิวหน้ามัน และเป็นสิวมากร่วมด้วย หากใครพบว่าตัวเองมีอาการต่าง ๆ เหล่านี้ ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจดูให้แน่ชัดค่ะ
10. อายุมากขึ้น
เมื่ออายุมากขึ้น ระบบต่าง ๆ ในร่างกายก็ย่อมเสื่อมสภาพลงตามธรรมชาติ ส่งผลให้สารพัดฮอร์โมนที่รักษาสมดุลแก่ร่างกาย รวมถึงระบบเผาผลาญทำงานด้อยประสิทธิภาพลง ซึ่งอาจส่งผลให้น้ำหนักขึ้นง่าย เกิดการสะสมของไขมันบริเวณหน้าท้องและจุดต่าง ๆ ได้มากขึ้น ฉะนั้นจึงควรเน้นบริโภคอาหารที่มีประโยชน์ และหมั่นออกกำลังกายเพื่อคงสภาพระบบต่าง ๆ ในร่างกายให้ดีที่สุดอยู่เสมอค่ะ
เปลี่ยนร่างใหม่ได้ดั่งใจ ด้วย CoolSculpting Elite
เมื่อทราบถึงสาเหตุที่อาจส่งผลให้ลดพุงเท่าไหร่ก็ไม่ลงเสียที พร้อมแนวทางแก้ไขเบื้องต้นกันไปแล้ว แต่ก็ยังอยากได้วิธีใหม่ ๆ ที่มีประสิทธิภาพทำควบคู่ไปด้วย หรือในคนที่ไม่ค่อยมีเวลาออกกำลังกายจริงจัง และยังอยากตามใจปากอยู่บ้าง เทคโนโลยี CoolSculpting Elite ตอบโจทย์คุณอย่างแน่นอนค่ะ เพราะ CoolSculpting Elite คือนวัตกรรมที่ถูกพัฒนาคิดค้นขึ้นมาเพื่อใช้สำหรับสลายไขมันและกระชับสัดส่วนแบบเฉพาะจุดโดยเฉพาะ ซึ่งข้อดีที่ทำให้วิธีนี้ได้รับความนิยม เป็นเพราะไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องเจ็บตัว ใช้เวลาทำเพียงไม่นาน และหลังรักษาเสร็จไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้นอีกด้วย
โดย CoolSculpting Elite จะทำงานผ่านหัวอุปกรณ์ ซึ่งเป็นหัวดูดแบบสุญญากาศ (Vacuum) โดยดูดติดเข้ากับผิวหนังบริเวณหน้าท้อง และส่งผ่านความเย็นในระดับต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง เข้าไปแช่แข็งเซลล์ไขมันใต้ชั้นผิวให้กลายเป็นผลึกและตายลง ซึ่งกระบวนการนี้ไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อผิวหนังชั้นนอก หรือเซลล์ใกล้เคียงแต่อย่างใดค่ะ การทำแต่ละจุดจะใช้เวลาตั้งแต่ 35 นาที – 1 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับพื้นที่ที่ทำ โดยการทำ 1 ครั้งสามารถสลายไขมันได้ 25 – 30% และหลังรักษาเสร็จสิ้นก็สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันต่อได้ชิล ๆ ซึ่งเหมาะกับคนที่ค่อนข้างยุ่งและไม่ค่อยมีเวลา
ทั้งนี้ CoolSculpting Elite มีงานวิจัยทางการแพทย์สนับสนุนกว่า 70 ชิ้น และได้รับการรับรองความปลอดภัยจาก FDA ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการกำจัดไขมันดื้อที่มักกำจัดได้ยาก โดยเฉพาะกับพุงที่เป็นปัญหาสำหรับใครหลาย ๆ คน ซึ่งการทำ CoolSculpting Elite เลือกทำได้หลากหลายบริเวณค่ะ ทั้งเหนียง ใต้รักแร้ ต้นแขน ต้นขา น่อง แผ่นหลัง หน้าท้อง หรือสะโพก
ถ้าหุ่นสวยและหน้าท้องกระชับราบเรียบคือสิ่งที่คุณหมายปอง แต่ประสบปัญหาลดพุงไม่สำเร็จเสียที แม้จะพยายามทั้งออกกำลังกายและควบคุมอาหารแล้วก็ตาม ทว่าด้วยนวัตกรรมสลายไขมันและกระชับสัดส่วน CoolSculpting Elite ที่ APEX จะช่วยให้ปัญหาคาราคาซังเหล่านั้นหมดไป ทำให้การกระชับสัดส่วนของคุณเป็นเรื่องง่าย สะดวก ปลอดภัย และไม่ต้องเจ็บตัว ที่สำคัญไม่ต้องแบ่งเวลามาเผื่อพักฟื้นหลังทำ เพราะหลังรักษาเสร็จสิ้น คุณสามารถเดินทางกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ทันที