เหนียงนับเป็นปัญหาระดับสากล เพราะไม่ว่าจะเป็นที่มุมไหนของโลก คนส่วนใหญ่ก็มักเผชิญกับ “เหนียง” อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยทั่วไปเหนียงคอมักเกิดจากการสะสมของไขมันส่วนเกิน หรือบางครั้งเกิดจากความหย่อนคล้อยของผิวหนังในผู้ที่อายุมาก นอกจากนี้คนรูปร่างผอมบางก็มีเหนียงได้ เพราะสามารถเกิดจากกรรมพันธุ์ หรือคางเล็กซึ่งทำให้เห็นเหนียงชัดกว่าปกติ โดยพฤติกรรมเอาแต่ก้มหน้าเล่นมือถือบ่อย ๆ ก็ส่งผลต่อการเกิดเหนียงเช่นกันค่ะ ดังนั้นใครที่อยากเริ่มทำอะไรสักอย่างเพื่อแก้ปัญหานี้ เรามีวิธีกำจัดเหนียงแบบทำเองได้ไม่ยากมาฝากกัน
5 วิธีลดเหนียงคอ
1. อดใจลดปริมาณของมันของทอด
หากเหนียงคอย้อย ๆ หรือเป็นชั้น ๆ ของคุณเกิดจากน้ำหนักตัวเกินเกณฑ์มาตรฐาน หรือการสะสมของไขมันส่วนเกินแล้วละก็ การปรับพฤติกรรมการกินนับเป็นอันดับแรก ๆ ที่จะแสร้งมึนเบลอปล่อยเลยตามเลยไม่ได้เด็ดขาดค่ะ แม้ของมันของทอด และบรรดาอาหารแปรรูปจะทั้งอร่อย สะดวก และอิ่มท้อง แต่อาหารเหล่านี้ให้โทษต่อร่างกายในระยะยาว และเป็นแหล่งของไขมันสะสมส่วนเกินที่จะขยายกลายเป็นเหนียงที่ทำให้คุณลำบากใจ ฉะนั้นเพื่อลดเหนียงคอ ย่อมควรลดปริมาณของมันและของทอดโดยด่วน
2. บริโภคน้ำตาลให้น้อยลง
ทั้งเครื่องดื่มและอาหารรสหวานล้วนอุดมไปด้วยน้ำตาล ซึ่งหากรับเข้าสู่ร่างกายมากเกินไป นอกจากทำให้สุขภาพองค์รวมเสียศูนย์แล้ว ยังสามารถทำให้ติดได้อีกด้วย แน่นอนว่าเจ้าน้ำตาลที่ทำให้ของกินทุกชนิดอร่อยขึ้นนั้น หากร่างกายใช้ไม่หมด หรือใช้ไม่ทันก็จะแปลงสภาพตัวเองกลายเป็นไขมันส่วนเกิน แล้วย้ายสำมะโนครัวไปอยู่อาศัยทั่วร่างกายรวมถึงเหนียงคอ ดังนั้นน้ำตาลจึงเป็นอีกอย่างที่ควรกินให้น้อยลงค่ะ
3. มอบไขมันดีให้ร่างกาย
นอกเหนือจากลดอาหารที่ให้โทษแก่ร่างกายลงสักหน่อยแล้ว การกินอาหารที่ดีมีประโยชน์ก็สำคัญต่อการลดเหนียงคออย่างมีประสิทธิภาพเช่นกัน ไขมันดีคือหนึ่งในสิ่งสำคัญที่ร่างกายเราต้องการ โดยพบได้มากใน น้ำมันมะกอก น้ำมันทานตะวัน น้ำมันรำข้าว รวมถึงปลาที่อุดมด้วยกรดไขมันสูงอย่าง ปลาแซลม่อน ปลาทูน่า ปลาซาร์ดีน และผักผลไม้ เช่น อะโวคาโด หรือบล็อกโคลี เป็นต้น
4. เน้นกินผักและผลไม้มากขึ้น
ผักผลไม้ไม่เพียงแต่ส่งผลดีต่อการลดเหนียงคอ เพราะล้วนอุดมด้วยวิตามิน แร่ธาตุ ใยอาหาร ลดความอยากน้ำตาล และอิ่มท้องนาน ส่งผลดีต่อสุขภาพองค์รวม ทั้งดีต่อการลดน้ำหนักหรือควบคุมน้ำหนักอีกด้วย อย่างไรก็ตามควรดูให้แน่ใจว่าล้างผักผลไม้เหล่านั้นสะอาดดีแล้ว และไม่ควรเลือกทานแต่ผลไม้ที่มีน้ำตาลสูงมากเกินไป เช่น มะม่วงสุก หรือทุเรียน
5. ออกกำลังกาย และบริหารใบหน้าลดเหนียงคอ
เมื่อปรับพฤติกรรมการกินในเบื้องต้นแล้ว อีกสิ่งสำคัญที่ลืมไม่ได้คือการออกกำลังกายเพื่อเผาผลาญปริมาณไขมันส่วนเกินในร่างกายลงอีกแรง นอกจากนี้การบริหารเฉพาะช่วงใบหน้า เหนียง และลำคอก็สามารถช่วยสลายเหนียงได้เช่นกันค่ะ อาจลองเริ่มจากท่าก้มและเงยง่าย ๆ วันละ 1 เซ็ตเป็นอย่างน้อย เริ่มจากตั้งศีรษะให้ตรง จากนั้นเงยหน้าไปข้างหลังจนรู้สึกตึง ค้างไว้ แล้วนับ 1 – 5 ในใจ ต่อด้วยก้มหน้าให้คางชิดลำคอมากที่สุด นับ 1 – 5 ในใจค้างไว้อีกครั้ง และทำแบบนี้ซ้ำสลับไปมาสัก 8 รอบ ซึ่งนับเป็น 1 เซ็ต และสามารถหาท่าบริหารอื่น ๆ ทำเพิ่มเติมด้วยการค้นจากแหล่งข้อมูลในอินเทอร์เน็ตค่ะ
ไม่อยากควบคุมอาหาร ไม่อยากออกกำลังกาย มีวิธีอื่นไหม ?
แน่นอนว่าเหนียงไม่ได้เกิดจากแค่การสะสมของไขมันส่วนเกินเพียงอย่างเดียวเสมอไป เพราะในคนที่รูปร่างผอมเพรียวก็มีเหนียงได้ ทั้งนี้อาจเกิดจากความหย่อนคล้อยตามช่วงวัย หรือกระทั่งพฤติกรรมก้มหน้าเล่นมือถือของคนยุคใหม่ ดังนั้นแม้หลายคนจะพยายามควบคุมอาหาร ออกกำลังกาย หรือใช้ท่าบริหารเหนียงอย่างขยันขันแข็งก็อาจไม่ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ ซึ่งสำหรับคนที่ไม่อยากออกกำลังด้วยแล้ว แน่นอนว่ายังมีเทคโนโลยีทางการแพทย์หลายตัวที่ช่วยได้ค่ะ
เทคโนโลยีเพื่อการยกกระชับในปัจจุบัน นอกจากช่วยแก้ปัญหาความหย่อนคล้อยของใบหน้า เหนียงคอ และผิวส่วนอื่น ๆ แล้ว ยังสามารถช่วยสลายไขมันส่วนเกินที่สะสมอยู่ตามใบหน้า แก้ม เหนียง ทั้งยังช่วยลดเลือนริ้วรอย เติมเต็มร่องลึกร่องตื้นต่าง ๆ และกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนใหม่แก่ชั้นผิวอีกด้วย โดยเราได้นำเครื่องยกกระชับหลากหลายตัวที่น่าสนใจมาแนะนำ ดังนี้ค่ะ
Morpheus8
ทำงานโดยส่งคลื่นพลังงานวิทยุ RF (Radio Frequency) ผ่านหัวเข็มแบบ Fractional RF Microneedle ซึ่งเป็นเข็มเคลือบทองคำจำนวน 24 เข็ม ลงลึกได้ 1 – 4 มิลลิเมตรสำหรับใบหน้าและลำคอ พลังงานความร้อนจะก่อให้เกิดการหดตัวของชั้นหนังแท้และชั้นไขมันใต้ผิว ทำให้ผิวหรือเหนียงกลับคืนสู่ความกระชับ ช่วยสลายแฟตทำให้ใบหน้าและเหนียงคอเล็กลง เต่งตึง เห็นกรอบหน้าชัดขึ้น อีกทั้ง Morpheus8 ยังมีคุณสมบัติเด่นด้านการช่วยฟื้นฟูผิว แก้ปัญหาริ้วรอย ร่องลึกร่องตื้น หลุมสิว กระ และจุดด่างดำได้ดีอีกด้วยค่ะ
Morpheus8 ต้องทำกี่ครั้ง เห็นผลเมื่อไร ?
สำหรับ Morpheus8 ควรทำต่อเนื่อง 3 ครั้ง โดยเว้นระยะห่างทุก 3 – 6 สัปดาห์ค่ะ โดยเห็นผลเรื่องความกระชับทันทีหลังทำราว 20% จากนั้นจะเห็นผลเต็มที่หลังทำที่ 3 – 6 เดือน และผลลัพธ์อยู่ได้นาน 6 – 12 เดือน เนื่องจาก Morpheus8 มีหัวทิปเป็นเข็มขนาดเล็กจำนวนมาก หลังทำผิวอาจมีอาการคันยิบ ๆ บวมแดงหรือกระทั่งมีจุดเลือดออกร่วมด้วย แต่สามารถหายได้เองภายใน 1 – 3 วันค่ะ
Ulthera SPT
Ulthera SPT ใช้เทคโนโลยีคลื่นเสียงอัลตราซาวด์แบบเฉพาะเจาะจง (High Intensity Focused Ultrasound) และสามารถยิงพลังงานลงลึกได้ 4.5 มิลลิเมตร ถึงชั้น SMAS หรือชั้นกล้ามเนื้อส่วนบนที่แพทย์ใช้ในการผ่าตัดดึงหน้า พลังงานที่ถูกส่งลงไปจะมีลักษณะเป็นจุดไข่ปลาเรียงกันเป็นเส้นตรง ซึ่งทั้งเสถียรและมีความเข้มข้นสม่ำเสมอ ความร้อนจากคลื่นพลังงานจะกระตุ้นให้เกิดการหดตัวของเส้นใยใต้ชั้นผิว ทำให้ใบหน้า เหนียงคอ หรือผิวที่เคยหย่อนคล้อยกลับมากระชับเต่งตึง ยกคิ้ว หางตา ร่องแก้ม ช่วยสลายไขมันสะสมใต้ผิว ทำให้เหนียงเล็กลง พร้อมช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนใหม่แก่ชั้นผิวอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผิวค่อย ๆ ได้รับการฟื้นฟูอย่างเป็นธรรมชาติ และดูอ่อนเยาว์ยิ่งขึ้น
โดย Ulthera SPT มีจอแสดงผลแบบเรียลไทม์ ซึ่งแพทย์ผู้ทำหัตถการสามารถมองเห็นชั้นผิวของคนไข้ได้ตลอดเวลา จึงสามารถปรับพลังงานและทำการรักษาได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น ทั้งก่อนเริ่มรักษาจริง แพทย์จะทำการออกแบบการรักษาแบบเฉพาะบุคคล เพื่อให้รักษาได้อย่างตรงจุดและแม่นยำ
Ulthera SPT ต้องทำกี่ครั้ง เห็นผลเมื่อไร ?
ทำ 1 ครั้ง ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 1 – 2 ปี โดยเห็นความเปลี่ยนแปลงเรื่องความกระชับหลังทำทันทีราว 30% จากนั้นผิวจะมีการผลิตคอลลาเจนใหม่เรื่อย ๆ และเห็นผลเต็มที่หลังรักษาในเดือนที่ 3 – 6 ค่ะ
Thermage FLX
Thermage FLX ทำงานด้วยคลื่นวิทยุความถี่สูงชนิดขั้วเดียว (Radio Frequency) พลังงานลงลึกได้ถึงชั้นหนังแท้และชั้นไขมัน โดยหัวทิปมีขนาด 4.0 ปล่อยพลังงานความร้อนได้อย่างครอบคลุม ทั้งยังสามารถตรวจวัดความต้านทานผิวแบบอัตโนมัติ จึงส่งพลังงานได้อย่างสม่ำเสมอและแม่นยำ เมื่อพลังงานลงสู่ผิวจะเปลี่ยนเป็นความร้อนที่อุณหภูมิประมาณ 40 – 50 องศาเซลเซียส และกระตุ้นให้เส้นใยคอลลาเจนเกิดการหดตัว ต่อด้วยจัดเรียงตัวใหม่มอบผลลัพธ์เป็นผิวที่ยกกระชับขึ้นทันที 20 – 30% ทั้งช่วยสลายไขมันใต้ชั้นผิว ทำให้ใบหน้าและเหนียงดูเล็กลง จากนั้นจะช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนใหม่ใต้ชั้นผิว ทำให้ผิวได้รับการฟื้นฟูขึ้นในทุก ๆ ด้าน ทั้งความเปล่งปลั่ง อิ่มฟู ลดเลือนริ้วรอย ร่องลึกร่องตื้น รอยแผลเป็น กระทั่งเห็นผลลัพธ์เต็มที่เมื่อผ่านไป 3 – 6 เดือน
Thermage FLX ต้องทำกี่ครั้ง เห็นผลเมื่อไร ?
Thermage FLX รักษา 1 ครั้ง ผลลัพธ์อยู่ได้ประมาณ 1 – 2 ปี โดยจะเห็นความเปลี่ยนแปลงด้านการยกกระชับหลังทำทันที จากนั้นจะเริ่มกระบวนการสร้างคอลลาเจนใหม่ใต้ชั้นผิวบริเวณที่รักษา ซึ่งมอบผลลัพธ์ชัดเจนเต็มที่ใน 3 – 6 เดือน
หากใครกำลังมองหาคลินิกสำหรับลดเหนียงคอ พร้อมทั้งช่วยยกกระชับใบหน้าบอกลาความหย่อนคล้อย แถมยังช่วยลดเลือนริ้วรอย มอบงานผิวเปล่งปลั่งอ่อนเยาว์ แบบไม่ต้องเจ็บตัวจากการผ่าตัด ปราศจากบาดแผล เห็นผลลัพธ์ทันใจ และไม่ต้องพักฟื้นหลังทำให้ยุ่งยาก ที่ APEX เรามีเครื่องยกกระชับเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดครบทุกเครื่องพร้อมให้บริการ ไม่ว่าจะเป็น Morpheus8, Ulthera SPT หรือ Thermage FLX และอื่น ๆ