พุงยื่น ตัวร้ายทำลายสุขภาพ แก้ได้ด้วย CoolSculpting

พุงยื่น ตัวร้ายทำลายสุขภาพ แก้ได้ด้วย CoolSculpting

เชื่อว่าแรก ๆ หลายคนอาจไม่ได้ใส่ใจกับปัญหาพุงที่ป่องออกมาเพียงเล็กน้อยกันสักเท่าไหร่ แต่พอนานวันเข้า การวนลูปกับไลฟ์สไตล์เดิม ๆ ไม่ว่าจะชอบกินของหวาน ของมันของทอดเป็นชีวิตจิตใจ ดื่มแอลกอฮอล์เป็นนิจ กินจุบจิบทั้งวี่ทั้งวัน มิหนำหนำซ้ำยังขี้เกียจออกกำลังกายเหลือเกิน กระทั่งเมื่อพุงเริ่มยื่นเกินหน้าเกินตา จนก่อความไม่สบายใจและไม่มั่นใจในรูปร่างตัวเอง ก็ถึงคราวที่แต่ละคนเริ่มกังวลใจ ว่าควรจัดการกับพุงยื่น ๆ อย่างไรดี

เป็นที่รู้กันว่า “พุงยื่น” คือผลลัพธ์จากการที่เราไม่ใส่ใจสุขภาพอย่างเพียงพอ จึงเกิดไขมันสะสมใต้ชั้นผิว ซึ่งโดยมากเป็นพลังงานส่วนเกินหลงเหลือจากอาหารที่กินเข้าไปมากเป็นพิเศษ และหากยิ่งไม่ได้เผาผลาญมันออกไปอย่างพอเหมาะ เจ้าไขมันที่ว่านี้ก็จะยิ่งสะสมมากขึ้นเรื่อย ๆ จนพอกตัวและเกาะอยู่ตามอวัยวะต่าง ๆ ภายในช่องท้องของเรา ที่สำคัญไขมันชนิดนี้ยังสามารถแทรกซึมเข้าไปอยู่ในหลอดเลือดแดงได้อีกด้วย

เมื่อไขมันในช่องท้องสลายตัวเป็นกรดไขมันอิสระ มันสามารถเข้าไปขัดขวางกระบวนการเผาผลาญกลูโคสในกล้ามเนื้อ และอาจพัฒนาเป็นสาเหตุของภาวะดื้ออินซูลิน ทำให้น้ำตาลในเลือดสูงขึ้น สุขภาพองค์รวมถดถอยลง และอาจก่อให้เกิดโรคอันตรายอื่น ๆ ตามมา เช่น โรคอ้วน โรคเบาหวาน โรคความดัน หรือโรคหลอดเลือดอุดตัน เป็นต้น

ทั้งนี้ไขมันสะสมบริเวณหน้าท้อง นับเป็นไขมันที่ดื้อที่สุดในร่างกายก็ว่าได้ค่ะ เพราะเป็นส่วนที่กำจัดยากเย็นแสนเข็ญสำหรับคนจำนวนมาก บางครั้งควบคุมอาหารก็แล้ว ออกกำลังกายก็แล้ว แต่ยังไม่สามารถขับไล่ไขมันส่วนนี้ไปได้ จนหลายคนท้อใจไปตาม ๆ กัน แน่นอนว่าในปัจจุบัน นอกเหนือจากวิธีธรรมชาติแล้ว เทคโนโลยีในการกำจัดไขมันส่วนเกินมากมายก็ถูกพัฒนาคิดค้นออกมาช่วยแก้ปัญหานี้เช่นกัน หนึ่งในนวัตกรรมที่ได้รับความไว้วางใจก็คือ CoolSculpting Elite ซึ่งเป็นการสลายไขมันและกระชับสัดส่วนด้วยความเย็นอย่างเป็นมิตรต่อร่างกาย ใช้เวลาทำต่อครั้งไม่นาน ไม่เจ็บตัว ไม่ต้องดมยาสลบเพราะไม่มีการผ่าตัด ที่สำคัญเหมาะกับคนที่ไม่ต้องการหยุดงานเพื่อพักฟื้น เนื่องจากหลังรักษาเสร็จสิ้น สามารถกลับไปทำงานหรือทำกิจวัตรอื่น ๆ ต่อได้ทันทีค่ะ

CoolSculpting Elite ช่วยสลายไขมันในร่างกายได้อย่างไร ?

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง ได้นำหลักการจากกระบวนการธรรมชาติของร่างกายมนุษย์มาใช้ ซึ่งหากเซลล์อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ร้อนจัดหรือเย็นจัด สามารถทำให้เซลล์ตายได้ ดังนั้นจึงเกิดแนวคิดการกำจัดเซลล์ไขมันส่วนเกินด้วยการใช้ความเย็นระดับต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง ซึ่ง CoolSculpting Elite คือการปล่อยความเย็น -11 ถึง -13 องศาเซลเซียส ผ่านผิวหนังลงไปยังชั้นไขมัน โดยใช้หัว Applicator ดูดติดเข้ากับผิวในบริเวณพื้นที่เป้าหมาย

ความเย็นจัดจะแช่แข็งเซลล์ไขมันให้กลายเป็นผลึกน้ำแข็งและตายลง (Apoptosis) โดยแต่ละจุดที่ทำการรักษาจะใช้เวลาตั้งแต่ 35 นาที – 1 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับพื้นที่ที่ทำ และเมื่อครบตามกำหนดเวลา ผู้เชี่ยวชาญจะทำการนวดบริเวณก้อนไขมันให้แตกตัว ซึ่งหลังจากนั้นร่างกายจะค่อย ๆ ย่อยสลายเซลล์ไขมันที่ตายแล้ว โดยขับออกไปตามธรรมชาติ เช่น ผ่านการปัสสาวะ หรือการขับถ่าย ซึ่งไขมันบริเวณนั้นจะลดลง 25 – 30% ต่อการทำ 1 ครั้งค่ะ

จุดเด่นของ CoolSculpting Elite

  • เป็นเทคโนโลยีที่ผ่านการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยจาก US FDA
  • ไม่มีการผ่าตัด และไม่มีการเจาะผ่านผิวหนัง แต่ใช้ความเย็นต่ำกว่าจุดเยือกแข็งในการช่วยสลายไขมัน
  • ไม่ต้องพักฟื้นหลังทำ
  • ใช้เวลาเพียง 35 นาที – 1 ชั่วโมง ในการทำ 1 ครั้ง และต่อ 1 จุด
  • ในการทำ 1 ครั้ง สามารถสลายไขมันในบริเวณที่ทำได้มาก 25 – 30%
  • หัว Applicator ของเครื่องรุ่นใหม่ แนบสนิทกับผิวได้มากถึง 96% กระจายความเย็นได้ทั่วถึงยิ่งขึ้น
  • หัว Applicator ของ CoolSculpting Elite มีมากถึง 7 หัว จากเครื่องรุ่นเดิมที่มีเพียง 5 หัว ซึ่งเหมาะกับบริเวณที่จะทำการรักษาได้มากขึ้น
  • เครื่อง CoolSculpting Elite ถูกพัฒนาให้ใน 1 เครื่องมีหัว Applicator ถึง 2 หัว และตัวทำความเย็นแยกอิสระจากกัน ผู้เข้ารับบริการจึงสามารถสลายไขมันได้พร้อมกันมากกว่า 1 จุดในครั้งเดียว

 

ขั้นตอนการทำ CoolSculpting Elite

ก่อนอื่นคุณไม่จำเป็นต้องเตรียมตัวใด ๆ เป็นพิเศษก่อนเข้ารับบริการค่ะ ดำเนินกิจวัตรประจำวันตามปกติก่อนมาได้เลย ซึ่งในระหว่างการรักษา คุณสามารถนอนหลับพักผ่อนชิล ๆ สบาย ๆ หรือจะหากิจกรรมเบา ๆ ทำไปด้วยก็ได้ เช่น อ่านหนังสือ ฟังเพลง ดูหนัง หรือดูคลิปวีดีโอออนไลน์ฆ่าเวลาเพลิน ๆ

ทั้งนี้ก่อนเข้ารับบริการคุณจะได้พูดคุยและปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ หรือ Specialist ก่อนเสมอ เพื่ออธิบายถึงรายละเอียดพื้นฐาน และข้อจำกัดบางอย่างของการทำ CoolSculpting ต่อด้วยบอกเรื่องความกังวลใจเกี่ยวกับสัดส่วน ทาง Specialist จะประเมินถึงปัญหา ตำแหน่งที่ต้องสลายไขมันด้วยความเย็น วางแผนออกแบบรูปร่างและการรักษา เพื่อกำหนดจำนวนครั้ง และขนาดของหัว Applicator ที่เหมาะสมค่ะ ซึ่งขั้นตอนการทำ CoolSculpting มีดังต่อไปนี้

  • ประคบผิวในบริเวณที่จะทำการรักษาด้วยแผ่นเจล
  • Specialist ติดหัวอุปกรณ์ (Applicator) ในพื้นที่เป้าหมายที่ต้องการสลายไขมัน
  • หัวอุปกรณ์จะดูดชั้นไขมันขึ้นมา และเริ่มปล่อยความเย็นลงไป
  • ระยะ 5 – 10 นาทีแรกระหว่างทำ คุณจะรู้สึกเย็นจัดในจุดที่ทำ รู้สึกว่าผิวโดนดูดและมีความตึง
  • ถัดจากนั้นจะค่อย ๆ เริ่มชา และคงที่ไปจนเสร็จสิ้นการสลายไขมันด้วยความเย็น ซึ่งใช้เวลาตั้งแต่ 35 นาที – 1 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ทำ
  • เมื่อครบกำหนดเวลา Specialist จะกลับมาถอดหัวอุปกรณ์ออก และรีบนวดบริเวณที่ทำทันที เป็นเวลา 2 – 5 นาที เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการรักษาให้ดียิ่งขึ้น
  • หลัง Specialist ทำความสะอาดในบริเวณที่รักษาแล้ว คุณสามารถกลับบ้าน หรือไปใช้ชีวิตประจำวันต่อได้ทันที โดยไม่ต้องพักฟื้นแต่อย่างใด

 

CoolSculpting Elite เหมาะกับใครบ้าง ?

  • ผู้ที่มีอายุ 20 ปี ขึ้นไป
  • เหมาะกับคนที่ต้องการลดจำนวนไขมันสะสมอย่างถาวรแบบเฉพาะจุด เช่น หน้าท้อง สะโพก ต้นแขน ต้นขา หรือก้น เป็นต้น
  • คนที่พยายามลดไขมันด้วยการควบคุมอาหาร หรือออกกำลังกายแต่ไม่ได้ผล เพราะยังมีไขมันดื้อที่จัดการได้ยากสะสมอยู่
  • คุณแม่หลังคลอด ที่ต้องการกระชับรูปร่างให้กลับคืนดังเดิม
  • คนที่มีปัญหาด้านสุขภาพ ไม่สะดวกออกกำลังกายแบบที่ใช้แรงเยอะ
  • คนที่ไม่ค่อยมีเวลาออกกำลังกาย หรือไม่อยากควบคุมอาหารมากเกินจำเป็น
  • เหมาะกับคนที่มีปริมาณไขมันส่วนเกินระดับปานกลาง (BMI<35) ในผู้ที่มีปริมาณไขมันสะสมจำนวนมาก การทำ CoolSculpting อาจเห็นผลน้อยและช้า ซึ่งควรต้องทำควบคู่กับการควบคุมอาหารและออกกำลังกาย หรือเลือกเทคโนโลยีอื่นในการกำจัดไขมัน
  • คนที่ไม่ต้องการเจ็บตัวจากการผ่าตัด ไม่ต้องการใช้วิธีที่มีการดมยาสลบหรือใช้ยาชา
  • คนที่ไม่ต้องการเสียเวลาพักฟื้นหลังรักษา

ข้อจำกัดในการทำ CoolSculpting Elite

  • ไม่เหมาะกับคนที่มีอาการแพ้ความเย็น ลมพิษจากความเย็น โรคกลัวความเย็น หรือโรคเลือดแข็งตัวผิดปกติ
  • ไม่เหมาะกับผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์ อยู่ในช่วงให้นมบุตร หรืออยู่ระหว่างเป็นประจำเดือน
  • ไม่เหมาะกับคนที่ติดอุปกรณ์ในร่างกาย เช่น เครื่องกระตุ้นหัวใจ
  • ผู้ที่เพิ่งผ่านการผ่าตัดในบริเวณที่ต้องการทำการรักษาด้วย CoolSculpting Elite จำเป็นต้องเว้นระยะก่อน 6 เดือน จึงสามารถทำได้
  • คนที่มีภาวะไส้เลื่อนบริเวณหน้าท้อง ไม่สามารถทำ CoolSculpting ได้อย่างเด็ดขาด แต่สามารถทำบริเวณอื่นได้ตามปกติ

 

ระยะเวลา และผลลัพธ์จากการทำ CoolSculpting Elite

มีความเป็นไปได้ว่าในช่วง 1 – 2 สัปดาห์แรกหลังรักษา จะมีอาการบวมในจุดที่ทำ เนื่องจากอาจมีเซลล์ไขมันที่ตายค้างอยู่ ซึ่งระหว่างนี้ร่างกายต้องใช้เวลาในการลำเลียงเซลล์ไขมันที่ตายแล้วออกไป โดยอาศัยกลไกธรรมชาติของร่างกายค่ะ จากนั้นอาการบวมจะค่อย ๆ ยุบลง และเริ่มเห็นสัดส่วนของบริเวณนั้นเล็กลงและกระชับขึ้น

ซึ่งจะเริ่มเห็นผลลัพธ์ ภายใน 3 – 4 สัปดาห์แรกหลังทำ และเห็นเป็นสัดส่วนที่กระชับขึ้นอย่างชัดเจน ภายใน 3 เดือน โดยการทำ 1 ครั้ง จะสามารถกำจัดไขมันออกจากบริเวณเป้าหมายได้ 25 – 30% ทั้งนี้หากยังไม่พอใจกับรูปร่าง สามารถทำซ้ำได้เพื่อผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้นโดยไม่เป็นอันตรายค่ะ

ระวังเครื่องปลอม หรือเครื่องไม่ได้มาตรฐาน!

เนื่องจากปัจจุบันนี้การทำ CoolSculpting ได้รับความนิยมอย่างมาก บางคลินิกอาจต้องการทำเงินด้วยการนำเครื่องเลียนแบบ หรือเครื่องที่ไม่ได้มาตรฐานเข้ามาให้บริการ ดังนั้นก่อนเข้ารับบริการกับสถานที่ใดก็ตาม ควรสังเกตชื่อ ลักษณะ และบริษัทที่ผลิตเครื่องให้แน่ใจ หรือลองซักถามจากเจ้าหน้าที่ประจำคลินิกนั้นว่าใช่เครื่อง CoolSculpting หรือไม่ หากพบว่าไม่ใช่หรือไม่แน่ใจ ควรหลีกเลี่ยงและหาคลินิกอื่นที่มั่นใจและตรวจสอบได้ว่าใช้เครื่องแท้จะดีกว่าค่ะ โดยความเสี่ยงที่เกิดจากการใช้เครื่องปลอม มีดังนี้
ผลลัพธ์ไม่ดีเท่าที่ควร เครื่องเลียนแบบมักสร้างจากเทคโนโลยีรุ่นเก่า ซึ่งไม่ได้มีการศึกษาวิจัยพัฒนาด้านความปลอดภัย หรือเพิ่มประสิทธิภาพ ดังเช่นเครื่องแท้ที่คอยปรับปรุงพัฒนาอยู่เสมอ ดังนั้นผลลัพธ์ที่ได้จากการใช้เครื่องปลอมหรือเครื่องไม่ได้มาตรฐาน ย่อมไม่อาจได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ หรืออาจไม่ได้ผลเลยนั่นเองค่ะ

เสี่ยงต่ออาการเบิร์นเย็น เครื่องเลียนแบบหรือเครื่องที่ไม่ได้มาตรฐาน ย่อมไม่มีระบบความปลอดภัยที่ดีพอ ซึ่งอาจไม่สามารถควบคุมความเย็นที่พอเหมาะในระหว่างทำ จึงอาจส่งผลให้ผิวโดนทำลายจากความเย็นจัด และอาจร้ายแรงถึงขั้นเนื้อเยื่อตายได้
ไม่ได้รูปร่างตามที่ต้องการ นอกจาก CoolSculpting Elite เครื่องแท้แล้ว บุคลากรผู้เชี่ยวชาญ หรือ Specialist คือบุคคลที่สำคัญมากสำหรับการสลายไขมันด้วยความเย็นค่ะ เนื่องจากผู้เชี่ยวชาญจะได้รับการฝึกอบรมให้มีทักษะที่ดีที่สุด เพื่อช่วยในการประเมินรูปร่างผู้เข้ารับบริการ และออกแบบการรักษาเพื่อให้สัดส่วนออกมาดูดีและตรงกับความต้องการของคุณมากที่สุด ดังนั้นหากบุคลากรไม่มีคุณภาพหรือไม่เชี่ยวชาญมากพอ อาจทำให้รูปร่างและสัดส่วนโค้งเว้าหลังการทำผิดเพี้ยนไป และแก้ไขได้ยากในอนาคตค่ะ

บทความที่เกี่ยวข้อง

ทำไมเสริมหน้าอกแล้วแข็ง
สาระน่ารู้

หน้าอกแข็งหลังเสริม เกิดจากอะไรได้บ้าง ?

การศัลยกรรมหน้าอกเสร็จสิ้นแล้ว แต่หน้าอกกลับแข็ง! หน้าอกที่แข็งหลังศัลยกรรมเป็นปัญหาที่หลายคนกังวล สาเหตุของความแข็งของหน้าอกอาจมีหลายประการ

อ่านต่อ »
เสริมหน้าอกผู้หญิง VS LGBTQ
สาระน่ารู้

เสริมหน้าอกผู้หญิง VS LGBTQ ต่างกันอย่างไร ?

การเสริมหน้าอกเป็นทางเลือกยอดนิยมสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มความมั่นใจและปรับรูปร่างให้สมส่วน อย่างไรก็ตาม กระบวนการเสริมหน้าอกในผู้หญิงทั่วไปและบุคคล LGBTQ อาจแตกต่างกัน

อ่านต่อ »
บอกต่อ 10 สิ่งที่ต้องรู้ก่อนเสริมหน้าอก
สาระน่ารู้

สิ่งที่ต้องรู้ก่อนเสริมหน้าอก 10 ข้อควรทราบก่อนตัดสินใจ

การมีหน้าอกสวย สมส่วน เป็นความฝันของผู้หญิงหลายคน ซึ่งการเสริมหน้าอกช่วยปรับขนาดให้เหมาะสมกับรูปร่างและเสริมสร้างความมั่นใจได้ ไม่ว่าคุณจะต้องการเพิ่มขนาดเพื่อความสมดุลของสัดส่วน

อ่านต่อ »
โปรแกรม HArmonyCA ! ราคาเปิดตัว 1 Dose เพียง 29,900 บาท
โปรโมชั่น

โปรแกรม HArmonyCA ! ราคาเปิดตัว 1 Dose เพียง 29,900 บาท

หากคุณกำลังมองหาวิธีฟื้นฟูผิวให้กลับมาสดใสและกระชับแบบไม่ต้องพักฟื้น โปรแกรม HarmonyCA คือตัวช่วยที่คุณไม่ควรพลาด! ด้วยเทคโนโลยี Hyaluronic Acid

อ่านต่อ »
ญดา นริลญา Apex Idol

สนใจปรึกษาหรือเข้ารับบริการ

หากสนใจรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถติดต่อสอบถามได้ผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้เลยค่ะ