กลายเป็นกระแสที่ชาวโซเชียลให้ความสนใจกันสุด ๆ กับภาพแฟชั่นฉลองวันวาไลนไทน์ในลุคสดใส หลังจากห่างหายจากการถ่ายแบบมาหลายสิบปี ของนักแสดงมากฝีมือ ดี้ ปัทมา ปานทอง เจ้าของบทบาทที่ทุกคนคุ้นหน้าคุ้นตากันดี อย่างบทน้อยในเรือนกาหลง เผยให้เห็นรูปลักษณ์ซึ่งนอกจากจะมีความสดใส ก็ยังดูอ่อนกว่าวัยในแบบที่ใครเห็นก็ต้องทัก
เพราะอายุเป็นเพียงตัวเลข ในปีนี้คุณดี้จึงขอลุกขึ้นมาประกาศความปังครั้งใหญ่ ด้วยการศัลยกรรมยกหน้าใหม่ทั้งระบบ โดยเลือกใช้บริการจาก APEX โรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งชื่อดังระดับแนวหน้า สร้างความตะลึงให้กับคนทั่วไป เพราะภาพลักษณ์ใหม่ของเธอนั้น สวยสะพรั่งและอ่อนเยาว์ลงจนแทบไม่น่าเชื่อ ว่านี่คือดารารุ่นใหญ่ที่กำลังก้าวสู่วัย 60 แล้ว เรียกได้ว่าเป็นการจุดประกายให้ผู้หญิงทุกคนกล้าที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง เพื่อความสวยที่ไม่มีวันหยุดจริง ๆ
เปิดใจ ดี้ ปัทมา ก่อนตัดสินใจศัลยกรรมยกหน้าที่ APEX
“จริง ๆ คือเป็นคนกลัวศัลยกรรมประมาณหนึ่งเลย” นี่คือความรู้สึกแรกของคุณดี้ ปัทมา ก่อนตัดสินใจทำศัลยกรรมยกหน้าใหม่กับคุณหมอสมบูรณ์ เจ้าของรางวัลศัลยกรรม Global Health Asia Pacific 4 ปีซ้อน แต่อะไรกันที่ทำให้เธอเปลี่ยนใจ และมั่นใจที่จะทำศัลยกรรมกับเรา มาอ่านความรู้สึก และความประทับใจที่คุณดี้บอกเล่าเอาไว้ได้เลย
“เราเป็นที่รู้จักในนามของนักแสดงและคุณแม่ลูกหนึ่ง ที่คร่ำหวอดในวงการมานาน และวันนี้มีโอกาสได้มาอยู่ที่โรงพยาบาลศัลยกรรม APEX สาขาเพลินจิต แล้วก็ได้มาตรวจร่างกาย มาคุย มา Consult ซึ่งคุณหมอได้มีการถามเราก่อนว่าเรามีความกังวลอะไรบ้าง ซึ่งส่วนที่เรากังวลมากที่สุดก็คือบริเวณใต้ตา ที่มันจะเป็นปูด ๆ ซึ่งถ้าไม่ได้ทำอะไรเลยแล้วทำแค่ส่วนนี้ก็ได้ แต่ไหน ๆ ทำแล้วก็เลยอยากทำส่วนอื่นด้วยเลย
นอกจากนั้นบริเวณที่มีปัญหาที่สุด เวลาเราดูรูปแล้วเราไม่ชอบก็คือส่วนคอ ด้วยความที่เป็นลูกครึ่ง ผิวก็จะแห้ง แล้วมันก็จะเหี่ยวก่อนวัย เพราะเพื่อนรุ่นเดียวกันที่เป็นคนไทย เป็นคนเอเชีย ไม่มีผสม ส่วนใหญ่เขาก็จะยังไม่เหี่ยวกันเลย แต่เรานี่คือนำหน้าเพื่อนไปไกลแล้ว
แล้วก็ยังมีส่วนหนึ่งที่คุณหมอแนะนำเราด้วย ว่าเวลาเขาจะดูคน ว่าคนนี้อายุเยอะหรือเปล่า เขาก็มักจะดูกันที่ใต้จมูก มาถึงบริเวณมุมปาก ถ้ามันกว้างมาก นั่นแหละเป็นตัวบ่งบอกว่าเรา ‘สูงวัย’ คุณหมอก็จะกระเถิบตรงปากขึ้นให้มันแคบ จะได้ดูเด็กลง”
ความประทับใจต่อคุณหมอที่ทำให้ ดี้ ปัทมา ไว้วางใจ
การตัดสินใจทำศัลยกรรม ถือเป็นเรื่องที่ไม่ได้ง่ายนัก เพราะอย่างที่รู้กันดี ว่าการทำศัลยกรรม ก็มีความเสี่ยงที่ต้องรับมือ และจำเป็นต้องเตรียมความพร้อมให้ดี ซึ่งคุณดี้เองก็เป็นหนึ่งในคนที่ให้ความสำคัญกับการเลือกศัลยกรรมดึงหน้าเช่นกัน “จริง ๆ คือมีความอยากทำศัลยกรรมมาตั้งแต่อายุ 50 แล้ว ซึ่งที่ผ่านมาเวลาสนใจที่ไหน ก็จะเข้าไปคุย ไปดูว่าที่ไหนเป็นยังไง แต่ก็ไม่ใช่ว่าที่อื่นที่เราไม่ได้ไปทำคือเขาไม่ดีนะ แต่ว่าจริตเราตรงกับที่ไหนมากกว่า อย่างตอนได้มาเจอกับคุณหมอสมบูรณ์ เราก็มีแอบไปศึกษาประวัติมาบ้าง
ซึ่งฝีมือของหมอแต่ละคนอาจจะมีใกล้เคียงกัน แต่ว่าประสบการณ์ในการทำงานของคุณหมอเนี่ย ทำให้เราคิดว่าเมื่ออยู่ในห้องผ่าตัดแล้ว เกิดกรณีฉุกเฉินอะไรขึ้นมา ประสบการณ์การทำงานของคุณหมอก็จะมีผลต่อชีวิตเรามาก เราก็เลยรู้สึกมั่นใจ และจากตอนที่คุณหมอเห็นเรา คุณหมอก็แนะนำได้ว่าเราควรจะทำอะไร แล้วสิ่งที่เราได้ มันก็คือสิ่งที่เราอยากให้มันเป็น มันก็เลยทำให้เราตัดสินใจเลือกที่ APEX
ถ้าถามว่าเดินทางไปทำศัลยกรรมดึงหน้าที่ต่างประเทศดีไหม มันก็ดี แต่ถ้าทำที่ไทยเราสามารถตรวจสอบประวัติการทำงานของคุณหมอ ที่สำคัญก็ยังไม่ต้องเดินทาง ได้อยู่ใกล้พ่อ แม่ พี่ น้อง ทำแล้วกลับไปบ้านได้ ซึ่งเรารู้สึกว่ามันก็มีข้อดีเยอะ ดังนั้นถ้าเราเลือกทำศัลยกรรมที่ไทย มันก็ทำให้เราอุ่นใจได้มากกว่า”
หลังดึงหน้าครบ 1 เดือน มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง
“หลังจากที่ทำการผ่าตัดมาแล้วครบ 1 เดือน กับคุณหมอสมบูรณ์ เราก็รู้สึกว่าชีวิตตอนนี้คือมีความสุขในทุกวัน แล้วเราก็รู้สึกชอบมากตั้งแต่ออกจากห้องผ่าตัด เพราะได้รับการดูแลที่ดีมาก ๆ มีการให้คำแนะนำว่าอะไรควรทำ ไม่ควรทำ เราก็ทำตามอย่างเคร่งครัด ซึ่งแผลผ่าตัดของเราดีเลยตั้งแต่ 7 วันแรก เพราะแผลที่หน้าไม่มีเลย ต่อให้ส่องด้านข้างก็แทบจะไม่ต้องกังวลเลยว่าใครจะรู้ว่าเราผ่าตัดมา เพราะมันไม่มีแผลให้เห็นเลย ก็เลยช่วยให้เราใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น”
“สุดท้ายนี้สำหรับคนที่ติดตามดี้อยู่ แล้วก็เฝ้ามองอยู่ว่า เราจะเปลี่ยนแปลงไปยังไง แล้วอยากทำบ้าง ดี้ก็ขอเป็นกำลังใจ ส่งกลับไปให้ทุกคนนะคะ เพราะผู้หญิงต้องอย่าหยุดสวย เราต้องมีชีวิตเป็นของตัวเองค่ะ”
ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับเฉพาะบุคคล เงื่อนไขตามบริษัทฯกำหนด
ใช้บริการได้ที่ Apex Clinic สาขาเพลินจิต