ดึงหน้า ตัวช่วยยกประชับ

ดึงหน้า

ดึงหน้า ตัวช่วยในการยกกระชับ เพิ่มความอ่อนเยาว์ให้ใบหน้า

การดึงหน้า เป็นวิธีที่ใช้ในการยกกระชับมาตั้งแต่ในอดีต ก่อนที่จะมีการทำหัตถการรูปแบบต่าง ๆ ที่ช่วยในการยกกระชับโดยไม่ต้องผ่าตัด แต่วันนี้นวัตกรรมต่าง ๆ ก็เป็นส่วนที่เข้ามาช่วยให้การผ่าตัดดึงหน้าสามารถทำได้ง่ายขึ้น ได้ผลลัพธ์ดีขึ้น และมีความปลอดภัยมากขึ้น วันนี้เราจะมาดูกันว่า นวัตกรรมการศัลยกรรมดึงหน้าในปัจจุบันเป็นยังไงบ้าง ถ้าอยากทำควรรู้อะไรบ้างก่อนตัดสินใจ ไปดูกันเลย

ดึงหน้า คือ

ดึงหน้า คืออะไร

คือ การศัลยกรรมเพื่อยกกระชับและลดริ้วรอย โดยเป็นวิธีที่ช่วยฟื้นฟูความอ่อนเยาว์ให้ใบหน้าอย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อย ริ้วรอยลึก หรือโครงหน้าที่เปลี่ยนแปลงไปเนื่องจากอายุที่เพิ่มขึ้น

ข้อดีของการดึงหน้า

การผ่าตัดดึงหน้าไม่เพียงช่วยในการยกกระชับ แต่ยังมีข้อดีอีกหลายประการที่ส่งผลต่อทั้งด้านร่างกายและจิตใจของผู้รับการรักษา ดังนี้
  • ยกกระชับหน้าอย่างชัดเจน โดยการผ่าตัดดึงหน้าสามารถยกกระชับได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ลดริ้วรอยลึก สามารถลดริ้วรอยบริเวณแก้ม ร่องน้ำหมาก และแนวกรามที่ลึกสามารถลดลงได้มากเมื่อเทียบกับวิธีอื่น
  • ผลลัพธ์ที่ยาวนาน สามารถคงอยู่ได้นาน 5-10 ปี ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองและสภาพผิว
  • ช่วยในการกระชับกรอบหน้า นอกจากยกกระชับหน้าแล้ว การผ่าตัดยังสามารถปรับแนวกรอบหน้าให้ชัดเจนขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีใบหน้าหย่อนคล้อยจนทำให้กรอบหน้าไม่ชัดเจน
  • แก้ปัญหาหลายจุดพร้อมกัน สามารถแก้ปัญหาความหย่อนคล้อยและริ้วรอยได้หลายบริเวณในครั้งเดียว
  • ฟื้นฟูความมั่นใจ ซึ่งการที่ใบหน้าดูอ่อนเยาว์และสดใสมากขึ้น ช่วยเพิ่มความมั่นใจในชีวิตประจำวันและการเข้าสังคม

ใครบ้างที่เหมาะสมกับการดึงหน้า

การผ่าตัดดึงหน้าเป็นหนึ่งวิธีในการยกกระชับ แต่อย่างไรก็ตามเราควรเลือกวิธีที่เหมาะสมที่สุดให้กับตัวเอง ซึ่งบุคคลที่เหมาะในการผ่าตัดดึงหน้ายกกระชับ มีดังนี้

  • ผู้ที่มีปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อยอย่างชัดเจน โดยมีผิวหย่อนคล้อย หรือหน้าเหี่ยว บริเวณแก้ม แนวกราม และลำคอ รวมถึงปัญหากรอบหน้าไม่ชัดเจนเนื่องจากความหย่อนคล้อยของใบหน้า
  • ผู้ที่มีริ้วรอยลึกที่ไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยวิธีอื่น เช่น ร่องน้ำหมาก หรือร่องลึกที่เกิดจากอายุ หรือเคยลองวิธีอื่นแล้วไม่ได้ผล
  • ผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่เริ่มมีปัญหาผิวเสื่อมสภาพเนื่องจากอายุที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม หากผู้ที่อายุน้อยกว่านี้มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยที่ชัดเจน อาจพิจารณาผ่าตัดชะลอวัยได้เช่นกัน
  • ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่ยาวนาน โดยเหมาะกับผู้ที่มองหาวิธีการแก้ปัญหาใบหน้าอย่างถาวรและยาวนานกว่าเทคโนโลยีแบบไม่ผ่าตัด
  • ผู้ที่ต้องการปรับปรุงบุคลิกภาพและความมั่นใจ รวมไปถึงมีความรู้สึกว่า ปัญหาผิวหน้าเหี่ยว หย่อนคล้อยส่งผลต่อความมั่นใจหรือบุคลิกภาพในชีวิตประจำวัน
  • ผู้ที่เข้าใจข้อจำกัดของการผ่าตัด เข้าใจว่าการผ่าตัดไม่สามารถหยุดยั้งความชราได้ แต่เป็นวิธีที่ช่วยเรื่องการยกกระชับและลดริ้วรอยในระยะยาว

ศัลยกรรมดึงหน้าเทียบกับวิธียกกระชับแบบอื่น

การผ่าตัดดึงหน้า เป็นการศัลยกรรมเพื่อยกกระชับและลดริ้วรอยอย่างมีประสิทธิภาพ โดยการดึงหน้าชั้นลึกเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อยอย่างรุนแรงหรือริ้วรอยลึกที่วิธีไม่ผ่าตัดไม่สามารถแก้ไขได้ ซึ่งผลลัพธ์จากการผ่าตัดจะคงผลลัพธ์ไว้ได้ประมาณ 5-10 ปี และเหมาะกับผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป โดยการผ่าตัดนี้จะเป็นต้องมีระยะพักฟื้นประมาณ 1-2 สัปดาห์

ในขณะที่วิธีไม่ผ่าตัด เช่น Ulthera, Thermage หรือ HIFU เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวเริ่มหย่อนคล้อยในช่วงอายุ 30-40 ปี ใช้เวลาทำไม่นาน ไม่ต้องมีการพักฟื้น แต่ผลลัพธ์จากการยกกระชับจะอยู่ได้เพียง 6 เดือนถึง 2 ปี ทั้งนี้การเลือกวิธีการยกกระชับขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละบุคคล

นวัตกรรมการดึงหน้าในปัจจุบัน

การผ่าตัดดึงหน้าเป็นวิธีที่มีมายาวนาน แต่ในปัจจุบันได้มีการพัฒนาเทคโนโลยีต่าง ๆ เข้ามาเป็นตัวช่วยในการผ่าตัด หรือทำให้ผลลัพธ์จากการผ่าตัดดีขึ้น ซึ่งนวัตกรรมการดึงหน้าในปัจจุบัน มีดังนี้
  • การศัลยกรรมดึงหน้าแบบ Mini Facelift เป็นเทคนิคสำหรับผู้ที่มีปัญหาหย่อนคล้อยเล็กน้อยถึงปานกลาง ใช้การผ่าตัดเล็กและการฟื้นตัวเร็วกว่า
  • การศัลยกรรมดึงหน้าด้วยการส่องกล้อง (Endoscopic Facelift) เป็นการใช้กล้องขนาดเล็กช่วยในกระบวนการผ่าตัด ทำให้แผลมีขนาดเล็กและลดระยะเวลาการฟื้นตัว
  • เทคนิคศัลยกรรมดึงหน้าร่วมกับการดูดไขมัน (Facelift with Liposuction) เหมาะสำหรับผู้ที่มีไขมันสะสมบนใบหน้าหรือคาง โดยทำการดูดไขมันและยกกระชับพร้อมกัน
  • การศัลยกรรมดึงหน้าด้วยเลเซอร์ (Laser Facelift) ใช้เลเซอร์ช่วยกระชับผิวและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวไม่กระชับเล็กน้อย

ความเสี่ยงของดึงหน้า

ถึงแม้ว่าการผ่าตัดดึงหน้าจะเป็นวิธีที่ให้ผลลัพธ์ได้ยาวนานเมื่อเปรียบเทียบกับวิธีอื่นในการยกกระชับ แต่ก็มีความเสี่ยงหลายอย่างที่ควรจะต้องรู้ก่อนที่จะตัดสินใจทำ ดังนี้
  • การติดเชื้อ อาจเกิดการติดเชื้อบริเวณแผลผ่าตัด หากไม่ดูแลความสะอาดอย่างเหมาะสม
  • แผลเป็น อาจมีแผลเป็นที่ชัดเจนหรือแผลเป็นนูน ขึ้นอยู่กับการดูแลแผลและการเย็บของศัลยแพทย์
  • อาการชาและเส้นประสาทเสียหาย อาจเกิดอาการชา หรือในบางกรณีเส้นประสาทอาจได้รับผลกระทบ ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงชั่วคราว
  • เลือดคั่งใต้ผิวหนัง อาจเกิดเลือดคั่งหรืออาการบวมมากบริเวณแผล ซึ่งต้องได้รับการดูแลที่ถูกต้อง
  • การหายของแผลที่ล่าช้า พบได้ในผู้ที่สูบบุหรี่หรือมีโรคประจำตัวที่ส่งผลให้แผลหายช้า เช่น เบาหวาน
  • ผลลัพธ์ไม่สมมาตร อาจเกิดความไม่สมดุลของใบหน้าจากกระบวนการผ่าตัดหรือการฟื้นตัว จำเป็นต้องใช้เวลาระยะหนึ่งในการฟื้นฟูของร่างกาย

การเตรียมตัวก่อนดึงหน้า ลดความเสี่ยงเกิดอันตราย

การเตรียมร่างกายและจิตใจให้พร้อมเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เนื่องจากการเตรียมตัวที่ดีจะทำให้เราไม่เกิดอาการบาดเจ็บมากกว่าที่ควรจะเป็น รวมไปถึงยังสามารถลดผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ ซึ่งการเตรียมตัวก่อนศัลยกรรมดึงหน้า มีดังนี้
  • ปรึกษาแพทย์เฉพาะทางด้านการศัลยกรรม เพื่อประเมินสุขภาพทั่วไปและหารือเกี่ยวกับความคาดหวังและผลลัพธ์ที่เป็นไปได้
  • ตรวจร่างกายอย่างละเอียด รวมถึงการตรวจเลือดและตรวจสุขภาพพื้นฐานเพื่อยืนยันความพร้อมก่อนการผ่าตัด
  • หยุดใช้ยาบางชนิด เช่น ยาลดการแข็งตัวของเลือดหรืออาหารเสริมบางชนิดตามคำแนะนำของแพทย์
  • งดบุหรี่และแอลกอฮอล์ อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนการผ่าตัดเพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อน
  • เตรียมตัวสำหรับการพักฟื้น วางแผนการหยุดงาน รวมไปถึงการจัดหาคนช่วยดูแลระหว่างพักฟื้น และเตรียมพื้นที่พักฟื้นที่สะดวกสบาย
  • ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับขั้นตอนผ่าตัดและการดูแลหลังการผ่าตัด เพื่อให้มั่นใจและลดความกังวลเกี่ยวกับกระบวนการทั้งหมด รวมไปถึงจะทำให้สามารถดูแลตัวเองได้อย่างถูกต้อง

หลังผ่าตัดดึงหน้า ต้องปฏิบัติตนอย่างไร

การดูแลตัวเองที่ดี จะส่งผลให้ผลลัพธ์หลังจากการผ่าตัดออกมาดี ทำให้ร่างกายฟื้นตัวเร็วขึ้น และสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ ซึ่งการปฏิบัติตนหลังศัลยกรรมดึงหน้า มีดังนี้
  • ปฏิบัติตามคำแนะนำแพทย์อย่างเคร่งครัด รวมถึงการรับประทานยา การล้างแผล และการนัดตรวจติดตามอาการ
  • หลีกเลี่ยงกิจกรรมหนัก โดยงดการออกกำลังกายหรือยกของหนักอย่างน้อย 4-6 สัปดาห์
  • ดูแลแผลผ่าตัดให้สะอาด ใช้ผ้าก๊อซสะอาดและป้องกันการติดเชื้อโดยหลีกเลี่ยงการสัมผัสแผลโดยตรง
  • นอนในท่าศีรษะยกสูง ใช้หมอนรองเพื่อช่วยลดอาการบวมและป้องกันการกดทับบริเวณใบหน้า
  • งดการสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อช่วยให้แผลสมานเร็วขึ้นและลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อน
  • หลีกเลี่ยงแสงแดดโดยตรง โดยควรใช้ครีมกันแดดและสวมหมวกเพื่อป้องกันผิวที่ยังอ่อนแอจากการถูกทำลาย

เหตุผลที่ต้องศัลยกรรมดึงหน้าที่ APEX

APEX หนึ่งในโรงพยาบาลศัลยกรรม ที่มีประสบการณ์ในด้านการศัลยกรรมมาอย่างยาวนาน เรามีมาตรฐานที่ชัดเจน และใส่ใจในทุกรายละเอียด ซึ่งเหตุผลที่ควรเลือกทำศัลยกรรมดึงหน้าที่โรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งเอเพ็กซ์ มีดังนี้

  • มีทีมแพทย์เฉพาะทางด้านศัลยกรรม มีศัลยแพทย์ที่มีประสบการณ์สูงและผ่านการฝึกอบรมเฉพาะทางในการดึงหน้า
  • มีการบริการแบบใกล้ชิด ดูแลทุกขั้นตอนตั้งแต่การประเมินก่อนผ่าตัด การผ่าตัด ไปจนถึงการติดตามผลหลังการผ่าตัด
  • มีมาตรฐานความปลอดภัย ดำเนินการในสถานพยาบาลที่ผ่านการรับรองด้านความปลอดภัยและสุขอนามัยจากกระทรวงสาธารณสุข
  • ให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน มุ่งเน้นการยกกระชับให้สมดุลและดูอ่อนเยาว์อย่างกลมกลืน
  • รีวิวและความพึงพอใจจากลูกค้า มีเสียงตอบรับที่ดีและภาพก่อน-หลังที่แสดงถึงคุณภาพของงาน

บอกต่อ ดึงหน้าที่ APEX ราคาเท่าไหร่

โดยตอนนี้การทำศัลยกรรมดึงหน้าที่ Apex จะมีราคาเริ่มต้นประมาณ 250,000 บาท
หากสนใจรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถสอบถามข้อมูลได้ค่ะ

ราคาเริ่มต้น 250,000 บาท

คำถามที่พบบ่อย

เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป หรือผู้ที่เริ่มสังเกตเห็นปัญหาหน้าหย่อนคล้อย ริ้วรอยลึก และรูปหน้าเปลี่ยนไปตามวัย รวมถึงผู้ที่ต้องการฟื้นฟูใบหน้าให้กลับมาอ่อนเยาว์ได้

กระบวนการเริ่มจากการประเมินใบหน้าโดยศัลยแพทย์ ออกแบบการผ่าตัดตามลักษณะเฉพาะบุคคล ใช้ยาสลบระหว่างผ่าตัด และใช้เวลา 4-6 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับเทคนิคและความซับซ้อนของแต่ละเคส

ระยะเวลาพักฟื้นอยู่ที่ประมาณ 2-4 สัปดาห์ โดยผู้ป่วยสามารถกลับไปทำกิจกรรมเบาๆ ได้ภายใน 1 สัปดาห์ แต่อาจต้องหลีกเลี่ยงกิจกรรมหนักและแสงแดดจัดในช่วงพักฟื้น

ผลลัพธ์สามารถคงอยู่ได้ประมาณ 7-10 ปี โดยขึ้นอยู่กับการดูแลสุขภาพและไลฟ์สไตล์ เช่น การหลีกเลี่ยงแสงแดดและการสูบบุหรี่ รวมถึงการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่เหมาะสม

ความเสี่ยงที่พบได้ทั่วไปคืออาการบวม ฟกช้ำ หรืออาการชาบางจุดชั่วคราว ซึ่งจะดีขึ้นตามเวลา กรณีหายากอาจมีการติดเชื้อหรือเกิดแผลเป็นที่ต้องการการดูแลเพิ่มเติม

สามารถทำร่วมกับการผ่าตัดเปลือกตา ยกคิ้ว หรือฉีดไขมันเพื่อปรับสมดุลและสร้างความสมบูรณ์ให้ใบหน้าได้ โดยแพทย์จะวางแผนให้เหมาะสมกับความต้องการของผู้ป่วย

การศัลยกรรมผ่าตัดดึงหน้าจะคงอยู่ได้นานแค่ไหนขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น เทคนิคที่ใช้, อายุ, สภาพผิว, พฤติกรรมการใช้ชีวิต และการดูแลหลังทำศัลยกรรม โดยทั่วไปผลลัพธ์ของการดึงหน้าจะอยู่ได้นานประมาณ 5-15 ปี

ตัวอย่างเคสดึงหน้าของคุณสุนันทา กลิ่นสุคนธ์

Exclusive Promotions

Recommendation Services

Give free consultation

รีวิวผลลัพธ์ก่อนและหลังการดึงหน้า

ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับเฉพาะบุคคล  ใช้บริการได้ที่ Apex Clinic สาขาเพลินจิต
ญดา นริลญา Apex Idol

Register to receive special discounts

By registering, you agree to the Terms of Service and Privacy Policy.