สำหรับสาวๆ ยุคนี้ที่รักความสวยความงาม คงจะคุ้นเคยกับคำว่า Ulthera หรือ Thermage มาบ้างแล้ว ซึ่งทั้งสองสิ่งนี้คล้ายกันตรงที่เป็นนวัตกรรมยกกระชับผิวหน้าที่ใช้กับใบหน้าโดยตรง โดยไม่จำเป็นต้องผ่านการผ่าตัด หรือใช้เข็มเหมือนกัน ทำให้หลายคนยังไม่ค่อยแน่ใจนักว่ามีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง ต้องเลือกแบบไหนถึงจะคุ้มค่ากับตัวเองมากที่สุด วันนี้เราเลยจะมาไขข้อของใจสาวๆ ทุกคน ว่า Thermage กับ Ulthera ต่างกันอย่างไร
Ulthera คือคลื่นเสียง
Ulthera คือ นวัตกรรมยกกระชับหน้าด้วยเทคโนโลยีคลื่นเสียงหรือที่เราคุ้นหูว่า Ultrasound เป็นคลื่นเสียงที่มีความเฉพาะเจาะจงไปสู่ใต้ชั้นผิวหนัง มุ่งเป้าหมายรอยต่อของชั้นกล้ามเนื้อส่วนบน (SMAS) ส่งผ่านความร้อนที่เป็นจุดเล็กๆ ในระยะห่างระหว่างจุดเท่าๆ กันประมาณ 1 มิลลิเมตร อย่างสม่ำเสมอลงสู่ใต้ผิว สามารถลงลึกได้ถึงตำแหน่งที่ต้องการจะทำการรักษา นำมาซึ่งการรักษาที่แม่นยำและได้ผลการรักษาที่แน่นอน ซึ่งกระบวนการเหล่านี้จะกระตุ้นการเสริมสร้างคอลลาเจนใหม่อย่างต่อเนื่อง
ผลลัพธ์ที่ได้จากการทำ Ulthera
ผิวตึง เรียบเนียนขึ้นอย่างดูเป็นธรรมชาติ คิ้วยกขึ้น ทำให้ดวงตาดูโตขึ้น เพิ่มความอ่อนเยาว์บนใบหน้า รูขุมขนเล็กลง ผิวยกกระชับมากยิ่งขึ้น เรียบเนียนขึ้นทั้งบริเวณใบหน้าและลำคอ โดยไม่ต้องทำศัลยกรรมอะไรเลย
ระยะเวลาในการเห็นผล
การรักษาด้วย Ulthera เพียงครั้งเดียว คุณจะค่อยๆ เห็นผลการรักษาทีละน้อย แต่จะเห็นผลชัดเจนอย่างต่อเนื่องหลังการรักษาประมาณ 3 เดือน
Thermage คือคลื่นวิทยุ
Thermage คือ เทคโนโลยีทางการแพทย์ผิวหนังที่สามารถปล่อยพลังงานคลื่นวิทยุความถี่สูง (High Radio Frequency) ลงไปใต้ผิวในชั้นลึก ซึ่งพลังงาน RF นี้จะทำให้เกิดความร้อน เพื่อกระตุ้นให้เกิดการหดตัวของเส้นใยคอลลาเจนและอิลาสตินที่ยึดเกาะกัน หดกระชับจนผิวหนังชั้นนอกหดกระชับตามไปด้วย
ผลลัพธ์ที่ได้จากการทำ Thermage
ใบหน้ายกกระชับขึ้น ริ้วรอยและร่องแก้มตื่นขึ้นอย่างเห็นผล รวมไปถึงคิ้วและหางตาที่ยกขึ้น และไขมันสะสมบางส่วนดูลดลง หน้าเข้ารูปกว่าเดิม
ระยะเวลาในการเห็นผล
หลังทำ Thermage จะส่งผลทันทีต่อการหดกระชับของโครงสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง โดยผลลัพธ์จะเห็นได้ชัดในเดือนที่ 2-3 และความกระชับอาจคงอยู่ยาวนาน 1-2 ปี ขึ้นกับลักษณะเฉพาะและวัยของแต่ละบุคคล
Thermage กับ Ulthera ต่างอย่างไร เหมาะกับใครบ้าง?
Thermage จะส่งผลเรื่องการกระชับจากผิวหนังชั้นไขมัน ส่วน Ulthera จะส่งผลการกระชับจากชั้นกล้ามเนื้อ ที่อยู่ลึกกว่าชั้นไขมันลงไปอีก ซึ่งความเหมาะสมในการรักษา ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ด้านผิวหนัง เพราะจะสามารถวิเคราะห์อย่างละเอียดได้ว่า ต้นเหตุหลักของความหย่อนคล้อยของแต่ละคนเกิดจากสาเหตุใด เพื่อการปรับใช้เครื่องมือที่เหมาะสมในการปรับโครงสร้างผิวที่เหมาะกับแต่ละคนนั่นเอง
สาวๆ ทุกคนต้องจำให้ขึ้นใจว่า เทคโนโลยีการยกกระชับใบหน้ายังมีอีกหลากหลายวิธี และเพื่อแก้ไขปัญหาให้ตรงจุด ในหนึ่งคนอาจต้องใช้มากกว่าวิธีเดียวในการรักษาให้เห็นผล และทุกการรักษาอาจมีผลข้างเคียงได้ จึงจำเป็นต้องศึกษาหาความรู้ หมั่นปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจ เพื่อให้การรักษาคุ้มค่าได้ผลและปลอดภัยมากที่สุดนั่นเอง
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ 080-500-0123 หรือ Line : @apexbeauty
📱Smartphone : click http://line.me/ti/p/%40apexbeauty
📱Desktop : click http://m.me/apexprofoundbeauty