เทียบกันไปเลย Ulthera VS Thermage แบบไหนช่วยยกกระชับได้ดีกว่า

เทียบกันไปเลย Ulthera VS Thermage แบบไหนช่วยยกกระชับได้ดีกว่า

ทั้ง Ulthera และ Thermage ต่างเป็นนวัตกรรมยกกระชับผิวยอดนิยมในปัจจุบัน เพราะสามารถช่วยฟื้นฟูผิวและกู้คืนความอ่อนเยาว์กลับมาได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้น มิหนำซ้ำทำเพียง 1 ครั้ง ผลลัพธ์กลับอยู่ยาวแบบจุก ๆ ตั้ง 1 – 2 ปี แน่นอนทั้งคู่ต่างมีคุณสมบัติช่วยยกกระชับผิวเหมือนกัน แถมลดเลือนริ้วรอย ปรับรูปหน้าให้เรียวกระชับ และกระตุ้นคอลลาเจนอีกด้วย แต่เทคโนโลยีไหนดีที่สุดกันแน่ ? บทความนี้เราได้รวบรวมข้อมูลเบื้องต้นมาให้แล้วค่ะ

Ulthera ทำงานอย่างไร ?

Ulthera หรือ Ultherapy ใช้เทคโนโลยีคลื่นเสียง Focused Ultrasound เพื่อยิงคลื่นพลังงานจำนวนมากลงสู่ผิวชั้นลึก ซึ่งพลังงานมีลักษณะเป็นจุดขนาดเล็ก 1 มิลลิเมตร และมีระยะห่างระหว่างจุดเท่า ๆ กัน โดยพลังงานคลื่นเสียงความถี่สูงแบบเฉพาะเจาะจงสามารถลงลึกได้ถึงรอยต่อของชั้นกล้ามเนื้อส่วนบน หรือ SMAS (Superficial Muscular Aponeurotic System) อันเป็นชั้นเดียวกับที่แพทย์ใช้เพื่อศัลยกรรมดึงหน้า

คลื่นพลังงานจะเปลี่ยนเป็นความร้อนเมื่อลงสู่ชั้นผิว ทำให้เส้นใยคอลลาเจนของเดิมหดตัวแล้วเรียงตัวแน่นขึ้น หลังการทำจึงให้ผลลัพธ์เป็นผิวที่ดูกระชับขึ้น 30% ทันที ซึ่งยังไม่จบเพียงเท่านี้ค่ะ คลื่นพลังงานจะกระตุ้นให้ชั้นผิวสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินขึ้นใหม่ต่อไปเรื่อย ๆ อย่างสม่ำเสมอ ผ่านไปอีก 3 – 6 เดือนหลังทำ ผิวจะยิ่งฟื้นคืนสู่ความอ่อนเยาว์อย่างเป็นธรรมชาติ ใบหน้าหรือผิวบริเวณที่ทำกระชับขึ้น ริ้วรอยจางลง ผิวเรียบเนียน และกระจ่างใสด้วยการทำเพียงครั้งเดียว ทว่าผลลัพธ์ยาวนาน 1 ปี

ทั้งนี้ระหว่างทำ Ulthera แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะสามารถมองเห็นสภาพผิวของผู้เข้ารับบริการผ่านหน้าจอแสดงผลของเครื่องตลอดเวลาค่ะ จึงทำให้สามารถรักษาได้แม่นยำยิ่งขึ้น 

Thermage ทำงานอย่างไร ?

Thermage ใช้ความร้อนจากคลื่นวิทยุแบบขั้วเดียว Monopolar RF ส่งเข้าไปยังชั้นหนังแท้และชั้นไขมัน เพื่อกระตุ้นการทำงานของคอลลาเจนและฟื้นฟูสภาพผิวโดยตรง ทำให้เส้นใยคอลลาเจนที่เสื่อมสภาพเกิดการหดตัว และมีเกลียวที่ตึงขึ้น ซึ่งจะเห็นผลลัพธ์เป็นผิวที่กระชับขึ้นหลังทำได้ทันทีค่ะ ต่อจากนั้นยังช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนและเส้นใยอีลาสตินใหม่ขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยจะให้งานผิวที่ได้รับการฟื้นฟูจนดูเด็กลงภายใน 3 – 6 เดือน ทั้งยังช่วยสลายไขมันที่สะสมอยู่ตามใบหน้า เหนียง และใต้ชั้นผิวอีกด้วย

โดย Thermage สามารถแก้ปัญหาได้หลากหลาย ทั้งใบหน้าหย่อนคล้อย ปัญหาริ้วรอย ปัญหาไขมันสะสมตามใบหน้า ลำคอ เหนียง ปัญหาผิวเป็นเซลลูไลท์หรือผิวเปลือกส้ม ซึ่งล้วนช่วยปรับให้ผิวกลับมาเต่งตึง เรียบเนียน เปล่งปลั่ง และกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ โดยการทำ 1 ครั้ง ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 2 ปีค่ะ

ทั้ง Ulthera และ Thermage เป็นนวัตกรรมที่มีความปลอดภัยสูง และเห็นผลลัพธ์จากการรักษาได้จริง ซึ่งทั้งคู่ต่างได้รับการรับรองความปลอดภัยจาก US FDA และ อย.ไทยค่ะ

Ulthera และ Thermage ทำตำแหน่งไหนได้บ้าง ?

ทั้ง Ulthera และ Thermage สามารถทำได้หลายตำแหน่งบนร่างกาย โดยมอบผลลัพธ์เป็นการยกกระชับ ลดเลือนริ้วรอย ฟื้นฟูผิวให้กลับคืนสู่ความอ่อนเยาว์ และสลายไขมันสะสมใต้ชั้นผิว ไม่ว่าจะเป็นหน้าผาก คิ้ว รอบดวงตา แก้ม ร่องแก้ม รอบริมฝีปาก และกรอบหน้า นอกจากนี้ยังทำได้ทั้งที่ลำคอ และเหนียง บริเวณเนินอก แขน ขา หน้าท้อง มือ สะโพก หรือก้น เพียงแต่ Thermage จะเหมาะกับการช่วยสลายไขมันสะสม และช่วยเรื่องของเซลลูไลท์ได้ดีกว่า Ulthera ค่ะ

Ulthera และ Thermage เหมาะกับใครบ้าง ?

Ulthera

  • คนที่ต้องการยกกระชับแก้ม เหนียงที่หย่อนคล้อย แต่มีไขมันสะสมไม่มาก
  • คนที่ต้องการลดเลือนริ้วรอยเล็ก ๆ ทั่วใบหน้าอย่างเป็นธรรมชาติ
  • คนที่ต้องการเพิ่มความคมชัดให้กรอบหน้า
  • คนที่ต้องการฟื้นฟูผิว เพิ่มความเรียบเนียน กระชับรูขุมขนให้เล็กลง
  • คนที่ต้องการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใต้ชั้นผิวขึ้นใหม่อย่างเป็นธรรมชาติ
  • คนที่เคยฉีดฟิลเลอร์เติมริ้วรอยร่องลึก และต้องการเก็บรายละเอียดเพิ่มความกระชับ

Thermage

  • คนที่มีไขมันสะสมบริเวณใบหน้าหรือแก้มในระดับปานกลาง อยากปรับกระชับรูปหน้าให้เรียวเล็ก เห็นกรอบหน้าชัดขึ้น
  • คนที่มีไขมันสะสมระดับปานกลางบริเวณลำคอ หรือเหนียง
  • คนที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย เหี่ยวย่นบริเวณใบหน้า ลำคอ เหนียง หน้าท้อง ต้นแขน หลังมือ
  • คนที่ต้องการยกกระชับรอบดวงตา มีปัญหาคิ้วตก หางตาตก
  • คนที่มีปัญหาเซลลูไลท์ ผิวเปลือกส้ม บริเวณต้นขาและก้น ต้องการให้ผิวเรียบเนียนขึ้น
  • คนที่ต้องการฟื้นฟูผิวอย่างเป็นธรรมชาติ ให้ผิวอิ่มฟู เรียบเนียน กระจ่างใส
  • คุณแม่หลังคลอดที่ต้องการกระชับหน้าท้องที่หย่อนคล้อย

 

ผลลัพธ์ของการทำ Ulthera VS Thermage

ระยะเวลาในการเห็นผล

Ulthera: เห็นผลลัพธ์เรื่องการยกกระชับทันทีหลังทำ 30% จากนั้นจะค่อย ๆ เห็นผลชัดเจนขึ้นทั้งในแง่ความกระชับ ริ้วรอย และผิวเต่งตึงแข็งแรง ภายใน 3 – 6 เดือน

Thermage: ผิวยกกระชับขึ้น 30% ทันทีหลังทำเช่นเดียวกันค่ะ ผลลัพธ์จะเริ่มเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ อย่างเป็นธรรมชาติ และชัดเจนที่สุดใน 3 – 6 เดือน

ระยะเวลาในการคงอยู่ของผลลัพธ์

Ulthera: ผลลัพธ์ของ Ulthera โดยทั่วไปสามารถอยู่ได้นาน 1 ปี หรืออาจนานกว่านั้น ซึ่งขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล

Thermage: ผลลัพธ์ของ Thermage ปกติสามารถอยู่ได้ที่ 2 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพปัญหาผิว และการดูแลส่วนบุคคลเช่นกัน

โดยทั้ง Ulthera และ Thermage ใช้การทำเพียง 1 ครั้ง เพื่อการเห็นผลลัพธ์ดังที่กล่าวมาค่ะ โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะแนะนำให้กลับมาทำซ้ำ ทุก 6 เดือน – 1 ปี เพื่อผลลัพธ์ที่ต่อเนื่อง

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น

ผลข้างเคียงปกติทั่วไปหลังรักษาด้วย Ulthera และ Thermage จะเป็นอาการบวมแดง หรือเจ็บระบมเล็กน้อยใต้ชั้นผิวบริเวณที่ทำค่ะ ซึ่งอาการเหล่านี้จะหายได้เองภายใน 2 – 3 วัน

ความเสี่ยงและข้อควรระวัง

การทำ Ulthera และ Thermage อาจไม่เหมาะและมีความเสี่ยงในผู้ที่มีเงื่อนไขด้านสุขภาพบางอย่างค่ะ ดังนั้นก่อนเข้ารับบริการจึงต้องปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างรอบคอบก่อนเสมอ ดังนี้

  • คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร
  • ในคนที่กำลังเป็นสิวอักเสบ โรคผิวหนังอักเสบ มีแผลสด หรือแผลติดเชื้อบนผิวหนัง ควรเลื่อนการทำออกไปก่อนจนกว่าสุขภาพผิวจะกลับเป็นปกติ
  • คนที่มีโรคประจำตัวบางชนิด เช่น โรคเกี่ยวกับภูมิคุ้มกัน เกี่ยวกับระบบประสาท เบาหวาน ต่อมไทรอยด์ โรคหัวใจ หรือโรคที่เกี่ยวกับระบบไหลเวียนโลหิต
  • คนที่มีการฝังโลหะ หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในร่างกาย เช่น เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจ
  • คนที่เพิ่งผ่านการทำหัตถกรรมความงามอื่น ๆ ภายในระยะเวลา 1 เดือน เช่น เลเซอร์ผิว เลเซอร์ขน ฉีดฟิลเลอร์ โบท็อกซ์

 

ทำ Ulthera และ Thermage เจ็บไหม ?

หัตถการทั้ง 2 แบบ ระหว่างทำจะมีความรู้สึกเจ็บด้วยกันทั้งคู่ค่ะ ทว่าเป็นความเจ็บในระดับที่ทนได้แน่นอน แต่จะรู้สึกเจ็บมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับระดับความทนเจ็บของแต่ละบุคคลเองด้วย โดยก่อนทำทั้ง Ulthera และ Thermage เจ้าหน้าที่จะแปะยาชาให้ก่อนอยู่แล้ว ทว่า Thermage จะรู้สึกเจ็บกว่า Ulthera เล็กน้อย เนื่องจากเป็นการส่งพลังงานเป็นก้อนเข้าสู่ชั้นผิว ทว่าด้วยเครื่อง Thermage FLX รุ่นใหม่ล่าสุด มีการเพิ่มระบบ Cooling Effect เข้ามา ซึ่งจะค่อย ๆ ปล่อยความเย็นในขณะทำ จึงช่วยป้องกันผิวไหม้ เพิ่มความผ่อนคลาย และช่วยลดความรู้สึกเจ็บลงอีกค่ะ

 

Ulthera VS Thermage เลือกแบบไหนดี ?

ข้อดีของ Ulthera

  • ครอบคลุมทุกชั้นผิว ช่วยยกกระชับใบหน้าลงลึกได้ถึงชั้น SMAS ชั้นเดียวกับการผ่าตัดดึงหน้า
  • มีความแม่นยำสูง เพราะมีระบบจอแสดงผลสำหรับแพทย์ให้เห็นผิวของผู้รับบริการแบบ Real time
  • ยกกระชับและฟื้นฟูผิว ได้ทั้งใบหน้าและลำตัว
  • เห็นผลลัพธ์เรื่องการยกกระชับหลังทำทันที 30%
  • ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและเส้นใยอีลาสตินใหม่เรื่อย ๆ เห็นผลชัดเจนใน 3 – 6 เดือน
  • ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 1 ปี

 

ข้อเสียของ Ulthera

ขณะทำการรักษาด้วย Ulthera จะรู้สึกเจ็บบ้าง โดยระดับความเจ็บจะไม่เท่ากันในแต่ละคนค่ะ บางรายสามารถทนได้ หรือในบางรายอาจไม่รู้สึกเจ็บเลย ซึ่งหลังทำจะมีผลข้างเคียงเป็นรอยแดงตามปกติ และสามารถหายได้เองภายใน 1 ชั่วโมง หรือหากมีอาการบวมแดงใต้ผิว จะหายภายใน 1 สัปดาห์ค่ะ ซึ่งขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคนด้วย ทว่า Ulthera จะช่วยเรื่องของการสลายไขมันใต้ชั้นผิวได้ไม่ดี จึงเหมาะกับคนที่มีไขมันสะสมในปริมาณน้อย

 

ข้อดีของ Thermage

  • เครื่องรุ่นใหม่ Thermage FLX มีระบบ Cooling Effect และระบบสั่น เพื่อป้องกันผิวไหม้ เพิ่มความรู้สึกสบายขณะทำและลดความเจ็บ
  • ครอบคลุมทุกชั้นผิว ยกกระชับและฟื้นฟูผิวได้ลึกจนถึงชั้นไขมัน
  • ช่วยยกกระชับและสลายไขมัน ในคนที่มีไขมันสะสมปานกลางบริเวณใบหน้าและเหนียงได้
  • ยกกระชับ สลายไขมัน และฟื้นฟูผิวได้ทั้งบริเวณใบหน้าและลำตัว
  • เห็นผลลัพธ์หลังทำทันที 30%
  • ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและเส้นใยอีลาสตินใหม่เรื่อย ๆ เห็นผลชัดเจนใน 3 – 6 เดือน
  • ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 2 ปี

 

ข้อเสียของ Thermage

ระหว่างแพทย์ผู้เชี่ยวชาญยิงพลังงาน Thermage เข้าสู่ชั้นผิว เป็นไปได้ว่าจะรู้สึกเจ็บอยู่บ้างค่ะ เนื่องจากระดับความอดทนของแต่ละบุคคลไม่เท่ากัน โดยการรักษาด้วย Thermage ระดับความเจ็บจะมีมากกว่า Ulthera และอาจเกิดรอยแดงหลังทำ แต่หายเองได้ใน 1 – 2 ชั่วโมง

 

ฉะนั้นแล้วไม่ว่าจะ Ulthera หรือ Thermage ต่างก็ช่วยยกกระชับผิว และช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิวเช่นกันค่ะ อีกทั้งยังช่วยฟื้นฟูผิวในระดับลึกและมอบคืนความอ่อนเยาว์ได้ดีไม่ต่างกัน อย่างไรก็ตามการจะเลือกทำหัตถการไหน ต้องพิจารณาจากลักษณะใบหน้า หรือปัญหาผิวส่วนบุคคลเป็นหลักค่ะ เช่น หากคุณเป็นคนที่มีไขมันสะสมบริเวณใบหน้า หรือจุดที่จะทำไม่มาก อยากเน้นที่การยกกระชับ ลดเลือนริ้วรอย และกระตุ้นคอลลาเจนให้ผิว อาจเหมาะกับการทำ Ulthera ค่ะ

แต่หากคุณเป็นคนที่มีไขมันสะสมบริเวณแก้ม คอ หรือเหนียงค่อนข้างพอประมาณร่วมด้วย การทำ Thermage จะเหมาะกว่า เนื่องจากมีคุณสมบัติช่วยสลายไขมันได้ดีกว่า Ulthera ทั้งนี้แท้จริงทั้ง Thermage และ Ulthera สามารถทำควบคู่กันได้ด้วยค่ะ โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะใช้ Ulthera เพื่อช่วยยกกระชับผิวลึกถึงชั้นกล้ามเนื้อ SMAS ก่อน จากนั้นจึงใช้ Thermage เน้นส่งพลังงานตั้งแต่ชั้นหนังกำพร้าจนถึงชั้นไขมัน เพื่อช่วยสลายไขมันสะสมและกระตุ้นสร้างคอลลาเจนในผิวส่วนบน จึงจะได้ผลลัพธ์ที่ช่วยยกกระชับอย่างครอบคลุมทุกระดับโครงสร้างผิวนั่นเอง

แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ก่อนตัดสินใจเลือกทำหัตถการไหน อย่าลืมว่าการสืบค้น และเรียนรู้เกี่ยวกับข้อมูลพื้นฐานอย่างรอบด้านดีต่อตัวเองที่สุด ซึ่งรวมถึงข้อมูลของคลินิกที่คุณให้ความสนใจ ว่าได้มาตรฐานไหม เปิดถูกต้องตามกฎกระทรวงสาธารณะสุขหรือเปล่า มีความน่าเชื่อถือแค่ไหน รวมไปถึงชื่อเสียงและรีวิวจากผู้ให้บริการจริง ก็ควรตรวจสอบอย่างดีที่สุดเท่าที่จะมากได้ค่ะ

ประการสุดท้ายที่ขาดไปไม่ได้เลย คือการเข้าไปปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการยกกระชับผิวค่ะ แพทย์ผู้ชำนาญการการใช้เครื่อง Ulthera และ Thermage จะช่วยแนะนำวิธีการรักษาที่เหมาะสมกับปัญหาผิว และความต้องการของคุณได้ดีที่สุด เพราะมีการวิเคราะห์สภาพผิวว่าเกิดจากปัญหาอะไรบ้าง ควรแก้ไขตรงจุดไหน และรักษาอย่างไรจึงจะมอบผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพยั่งยืน

บทความที่เกี่ยวข้อง

ไทม์ไลนฟื้นตัวหลังเสริมหน้าอก
สาระน่ารู้

ทำความเข้าใจไทม์ไลน์การฟื้นตัวหลังเสริมหน้าอก

หนึ่งในคำถามที่พบบ่อยที่สุดจากผู้ที่สนใจทำศัลยกรรมหน้าอก คือ ระยะเวลาการฟื้นตัว การเข้าใจสิ่งที่ต้องเผชิญระหว่างกระบวนการฟื้นฟูจะช่วยให้คุณเตรียมตัวทั้งทางร่างกายและจิตใจได้ดียิ่งขึ้น

อ่านต่อ »
เลือกซิลิโคนเสริมหน้าอกอย่างไรให้ตอบโจทย์
สาระน่ารู้

Round vs Teardrop เลือกซิลิโคนเสริมหน้าอกอย่างไรให้ตอบโจทย์

วันนี้เราจะมาพูดถึงสองรูปทรงซิลิโคนที่ได้รับความนิยมคือ รูปกลม (Round) และรูปหยดน้ำ (Teardrop) หากคุณกำลังศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับตัวเลือกนี้

อ่านต่อ »
4 โรคเรื้อรังที่ควรหลีกเลี่ยงการเสริมหน้าอก
สาระน่ารู้

4 โรคเรื้อรังที่ควรหลีกเลี่ยงการเสริมหน้าอก

สำหรับใครที่กำลังพิจารณาการทำศัลยกรรมเสริมหน้าอก มีหลายปัจจัยด้านสุขภาพที่ควรพิจารณาอย่างรอบคอบ การตรวจสุขภาพอย่างละเอียดเป็นสิ่งสำคัญ

อ่านต่อ »
ทำไมเสริมหน้าอกแล้วแข็ง
สาระน่ารู้

หน้าอกแข็งหลังเสริม เกิดจากอะไรได้บ้าง ?

การศัลยกรรมหน้าอกเสร็จสิ้นแล้ว แต่หน้าอกกลับแข็ง! หน้าอกที่แข็งหลังศัลยกรรมเป็นปัญหาที่หลายคนกังวล สาเหตุของความแข็งของหน้าอกอาจมีหลายประการ

อ่านต่อ »
ญดา นริลญา Apex Idol

สนใจปรึกษาหรือเข้ารับบริการ

หากสนใจรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถติดต่อสอบถามได้ผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้เลยค่ะ