หากใครเคยออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนัก ย่อมต้องรู้ดีถึงความยากลำบากที่ต้องเผชิญ เพราะระหว่างทางมักมีอุปสรรค และสิ่งล่อตาล่อใจเต็มไปหมด ทั้งที่เกิดจากตัวเองและภายนอก ทว่าเมื่อเริ่มสร้างวินัยได้ระดับหนึ่งแล้ว หุ่นที่คาดหวังก็ย่อมรออยู่ไม่ไกลแน่นอน แต่เมื่อแขน ขา เอว และสะโพกทยอยลดลงกันหมดแล้ว คนส่วนใหญ่มักพบว่าหน้าท้องดูคล้ายจะไม่แบนราบง่าย ๆ ดั่งใจ ซ้ำไม่ว่าพยายามเท่าไหร่ พุงที่เราอยากกำจัดใจจะขาดก็ยังไม่ยอมจากไปง่าย ๆ นี่จึงกลายเป็นสิ่งที่สายลดน้ำหนักรู้โดยทั่วกัน ว่าไขมันหน้าท้องนั้นคือส่วนที่ลดยากลดเย็นที่สุด ในบทความนี้เราจะพาไปไขข้อข้องใจกันค่ะ ว่าเพราะอะไรพุงจึงกลายเป็นส่วนที่กำจัดยากที่สุด อะไรกันแน่ที่ทำให้ไขมันหน้าท้องดื้อด้านเหลือเกิน
อันตรายของไขมันหน้าท้อง
ไขมันหน้าท้องแบ่งออกได้เป็น 2 ชนิด คือไขมันใต้ผิวหนัง (Subcutaneous Fat) มีลักษณะทำให้พุงป่อง ซึ่งเป็นชั้นที่เราลองใช้นิ้วหนีบคีบมันดูได้ ไขมันชั้นนี้สามารถดูดออก หรือใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์อื่น ๆ ช่วยสลายได้ค่ะ ไขมันอีกชนิดคือไขมันในช่องท้อง (Visceral Fat) ซึ่งจะอยู่ลึกลงไปใต้ชั้นกล้ามเนื้อหน้าท้อง มักพอกอยู่ตามอวัยวะต่าง ๆ เช่น ตับ ลำไส้เล็ก หรือกระเพาะอาหาร โดยเจ้าไขมันบริเวณนี้นี่แหละค่ะ ที่หากเกิดการสะสมเยอะก็ยิ่งอันตราย สามารถทำให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกายเกิดการอักเสบ เสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ และยังเสี่ยงต่อการเกิดเป็นโรคอันตรายอื่น ๆ เช่น ความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคหัวใจและหลอดเลือด หรือโรคอ้วน อย่างไรก็ตามไขมันในช่องท้องสามารถใช้วิธีออกกำลังกาย การควบคุมอาหาร และอาศัยการดูดไขมันออกได้เช่นกัน
ทำไมลดไขมันหน้าท้องยากกว่าส่วนอื่น
สาเหตุใหญ่ ๆ ที่ทำให้เกิดการสะสมของไขมันหน้าท้องในยุคนี้มากที่สุด ก็คือพฤติกรรมการกิน ซึ่งเกิดจากการกินอาหารมากเกินกว่าที่ร่างกายต้องการต่อวัน รวมไปถึงการกินจุบจิบวันละหลาย ๆ มื้อ โดยเฉพาะมื้อดึก และยิ่งหากเป็นอาหารจำพวกแป้งและน้ำตาลสูง หรือของมันของทอดที่อุดมด้วยไขมันทรานส์ซึ่งอันตรายต่อร่างกายก็ยิ่งแย่ไปกันใหญ่ ยังไม่รวมพฤติกรรมการใช้ชีวิตอื่น ๆ ที่กระทบหรือขัดขวางต่อการลดพุง เช่น ดื่มน้ำน้อย พักผ่อนน้อย และความเครียด การปรับพฤติกรรมเหล่านี้สำคัญอย่างยิ่งต่อการกำจัดไขมันส่วนเกินค่ะ แต่วิธีเหล่านี้ก็ใช่ว่าจะได้ผลตามที่ต้องการเสมอไป เพราะคนจำนวนไม่น้อยพบว่าต่อให้ออกกำลังกายควบคู่ควบคุมอาหาร และใช้ชีวิตแบบเฮลตี้สุด ๆ พุงก็ยังไม่ยอมยุบง่าย ๆ อยู่ดี
ปัจจุบันแม้จะยังไม่แน่ชัดว่าทำไมไขมันหน้าท้องจึงลดได้ยากและช้าที่สุด ทว่ามีผู้เชี่ยวชาญอธิบายว่า ไขมันหน้าท้องที่สะสมอยู่หนาแน่นมาก ๆ อาจทำหน้าที่เสมือนเป็นอวัยวะส่วนหนึ่งของร่างกาย ซึ่งช่วยผลิตทั้งฮอร์โมนและสารบางอย่างที่ส่งผลต่อร่างกาย มันจึงกลายเป็นไขมันส่วนท้าย ๆ ที่ถูกสลายทิ้งค่ะ
นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอีกมากมายที่สามารถขัดขวางการลดไขมันหน้าท้อง เช่น กรรมพันธุ์ ซึ่งอาจทำให้อ้วนง่ายกว่าคนทั่วไป และระบบเผาผลาญไม่ดีเท่า ภาวะเครียดมากเกินไปและพักผ่อนไม่เพียงพอก็ส่งผลเช่นกัน เพราะร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) หรือฮอร์โมนเครียดออกมามากกว่าปกติ กระตุ้นให้ร่างกายเกิดความอยากอาหารมากขึ้น โดยเฉพาะอาหารจำพวกแป้งและน้ำตาลสูง ซึ่งหากกินเยอะตามใจปาก อาหารเหล่านี้ย่อมกลายเป็นไขมันสะสมเพิ่ม นอกจากนี้ฮอร์โมนเครียดยังทำให้ระบบเผาผลาญประสิทธิภาพลดลงด้วย
ดังนั้นหากใครรู้สึกว่าลองหลากหลายวิธีด้วยตัวเองแล้ว แต่หน้าท้องก็ยังไม่ยุบหรือแบนราบดังใจหวัง ยังมีเทคโนโลยีทางการแพทย์ในปัจจุบันอีกหลากหลายที่สามารถช่วยกำจัดไขมันได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเห็นผลเร็วแบบไม่ต้องเหนื่อยกับการคร่ำเคร่งออกกำลังกาย หรือการควบคุมอาหารค่ะ ซึ่งหากใครกลัวเจ็บตัว และไม่มีเวลาสำหรับการพักฟื้นหลังทำ CoolSculpting Elite เป็นผู้ช่วยที่เหมาะกับคุณแน่นอน
ลดไขมันหน้าท้องไม่ยาก แค่ทำ CoolSculpting Elite
CoolSculpting Elite คือการอาศัยความเย็นในการสลายไขมันและกระชับสัดส่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับบรรดาไขมันดื้อที่ลดยากลดเย็นอย่างบริเวณหน้าท้อง ซึ่งเป็นการนำหัว Applicator ดูดติดเข้ากับผิวหนังในพื้นที่เป้าหมาย จากนั้นส่งผ่านความเย็นที่อุณหภูมิ -11 ถึง -13 องศาเศลเซียส เข้าไปแช่แข็งเซลล์ไขมันใต้ชั้นผิวให้ตายลง โดยไม่ส่งผลกระทบต่อผิวชั้นบนและเซลล์ข้างเคียงอื่น ๆ ซึ่งปลอดภัยแน่นอนค่ะ เพราะทาง US FDA ได้รับรองมาตรฐานความปลอดภัยเรียบร้อยแล้ว
ส่วนเซลล์ไขมันที่ตายแล้วจะค่อย ๆ ถูกกำจัดออกจากร่างกายตามธรรมชาติ เช่น ระบบขับถ่ายค่ะ ซึ่งเป็นการกำจัดทิ้งอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยจะเริ่มเห็นว่าหน้าท้องเล็กลงราว 1 เดือนหลังทำ และชัดเจนที่สุดภายใน 3 เดือน ฉะนั้นไม่เจอปัญหาผิวหย่อนคล้อยตามมาอย่างแน่นอน โดยการรักษา 1 ครั้ง จะสลายไขมันได้ราว 25 – 30% ฉะนั้นหากใครต้องการให้ไขมันหน้าท้องน้อยลงอีกก็สามารถทำซ้ำได้เรื่อย ๆ จนกว่าจะเห็นผลลัพธ์ที่พอใจ ซึ่งควรเว้นระยะอย่างน้อย 2 สัปดาห์ – 1 เดือนค่ะ
ทั้งนี้ CoolSculpting Elite สามารถทำได้หลากหลายตำแหน่งบนร่างกาย เช่น เหนียง ใต้รักแร้ แผ่นหลัง ต้นแขน ต้นขา หน้าท้อง รอบเอว หรือน่อง
มากกว่าหุ่นที่ดี ด้วย CoolSculpting Elite
บางครั้งการคร่ำเคร่งออกกำลังกายหรือหมั่นควบคุมอาหาร ก็อาจไม่ได้ผลลัพธ์ที่ดีเสมอไปค่ะ เพราะความกดดันมากเกินไป สามารถทำให้ร่างกายเครียดจนหลั่งฮอร์โมนเครียดออกมามากกว่าปกติ กลายเป็นกระทบต่อสุขภาพกาย ใจ ระบบภูมิคุ้มกัน และระบบเผาผลาญ แทนที่จะได้หน้าท้องราบเรียบก็กลับกลายเป็นพุงป่องจากความเครียด ไม่ว่าจะลดเท่าไหร่ก็ลดไม่ลงเสียที ทว่าสภาวะทั้งหมดที่ว่ามาสามารถแก้ได้ด้วย CoolSculpting Elite ค่ะ
ด้วย CoolSculpting Elite แม้คุณจะยังออกกำลังกาย หรือควบคุมอาหาร ทว่าก็ไม่ต้องเคร่งเครียดกับมันมากจนเกินพอดีอีกต่อไป เพราะเทคโนโลยีสลายไขมันด้วยความเย็นจะช่วยสลายไขมันออกจากร่างกายอย่างถาวร พร้อมมอบหน้าท้องที่กระชับขึ้นแบบที่คุณต้องการได้ง่าย ๆ อย่างปลอดภัย ไม่ต้องเจ็บตัว ใช้เวลาทำแต่ละครั้งไม่นาน และไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้น